[รีวิว] Lord Jim’s - Mandarin Oriental สุดยอดบุฟเฟ่ต์ในโรงแรมระดับเวิร์ลคลาส

  • 0
หากพูดถึงชื่อโรงแรม Mandarin Oriental หรือ “โอเรียนเต็ล” น้อยคนนักที่จะไม่เคยไม่ได้ยินชื่อโรงแรม 5 ดาวระดับเวิร์ลคลาสแห่งนี้  ร้านอาหารหนึ่งที่โด่งดังมีชื่อเสียงคู่กับโรงแรมแห่งนี้ คือร้าน Lord Jim’s ด้วยชื่อเสียงของโรงแรมรับประกันคุณภาพอาหารและการบริการ ทำให้ Lord Jim's แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสวรรค์ที่นักกินบุฟเฟ่ต์ห้ามพลาด
image



ร้านอาหาร Lord Jim’s ถูกตั้งขึ้นตามตัวละครในนิยายของนักเขียนชื่อ Joseph Conrad นักเขียนชาวโปแลนด์ผู้โด่งดัง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมาพักในโรงแรมแห่งนี้  นอกจาก Lord Jim’s แล้ว ยังมีร้านอาหารอีกมากมายในโรงแรมแห่งนี้ เช่น  ศาลาริมน้ำ (อาหารไทย), Ciao (อาหารอิตาลี่), Le Normandie (อาหารฝรั่งเศส)เป็นต้น ซึ่งเราจะไปพาไปรีวิวในโอกาสต่อไป แต่ไฮไลท์ของวันนี้คือ ร้าน Lord’s Jim ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสองของโรงแรมแห่งนี้
image
image
เมื่อเข้ามาถึง พนักงานต้อนรับจะนำท่านสู่โต๊ะที่จองไว้ ระหว่างทางเดิน ท่านจะเห็นตู้ปลาขนาดใหญ่ตามทางเดินทอดยาวไปสู่บริเวณร้านอาหาร
image
ร้านอาหารถูกตกแต่งในสไตล์โมเดิลผสมคลาสสิค บริเวณของร้านอาหารไม่ได้กว้างมาก สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 50 ราย แต่ก็มีห้องรับรองพิเศษสำหรับท่านที่ต้องการเป็นส่วนตัว รองรับลูกค้าได้ประมาณ 10 ราย เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ท่านจะต้องผ่านเคาน์เตอร์อาหารต่างๆ ท่านจะได้เห็นความหลากหลายของอาหารบุฟเฟ่ต์  ซึ่งเป็นการกระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะได้ดี  ท่านอาจถือโอกาสนี้เล็งไว้เลยว่าจะทานอะไรบ้าง
image
บรรยากาศในร้านสว่างจากแสงที่ส่องเข้ามาจากด้านนอก สำหรับท่านที่ชอบบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา อย่าลืมระบุขอโต๊ะติดริมกระจกตอนที่จองโต๊ะด้วย
image
บนโต๊ะนั้นประกอบไปด้วยจาน ซ่อม และ มีด ประดับด้วยแจกันดอกไม้ สำหรับคนที่ต้องการช้อนสามารถขอเพิ่มได้จากพนักงาน
image
เมื่อถึงโต๊ะแล้ว พนักงานจะเข้ามาถามเครื่องดื่มที่ต้องการ ตัวเลือกที่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ คือ ชา กาแฟ และน้ำเปล่า ส่วนนอกเหนือจากนั้นจะต้องสั่งเพิ่ม
เมื่อพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาลุยกันเลย  อาหารของที่นี่แบ่งออกได้เป็น 5 เคาน์เตอร์ใหญ่ๆ ได้แก่ อาหารไทย, อาหารญี่ปุ่น, อาหารอิตาลี่, เนื้อและอาหารทะเล, และของหวาน
image
เริ่มกันที่อาหารไทยกันก่อน ที่เคาน์เตอร์อาหารไทย มีไทยหลากหลายให้เลือก เช่น ส้มตำ และยังมีเชฟคอยตำส้มตำสดๆให้ท่าน ท่านสามารถสั่งได้ว่าจะเอาเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อย ถูกใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
image
นอกจากนี้ยังมีปลานึ่ง เสิร์ฟคู่กับขิง, เห็ดหอม, พริกหยวก แบบไทยๆ ให้ได้ลองชิมอีกด้วย เนื้อปลานั้นนุ่มและแน่น ส่วนเครื่องเคียงเช่น ขิงและเห็ดหอมก็ช่วยดับรสคาวได้ดี
image
มาต่อกันที่อาหารญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้งปลาดิบมากมายให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็น แซลมอน ทูน่า ปลาหมึก ปูอัด และซูชิหลากหลายหน้าอีกด้วย
image
image
แต่ถ้าหากว่าคุณอยากได้ซูชิแบบพิเศษ เช่น เทมากิ สามารถขอให้เชฟประจำเคาน์เตอร์ช่วยทำให้คุณได้เช่นเดียวกัน
image
หลังจากเลือกอยู่นาน ในที่สุดก็ได้อาหารญี่ปุ่นจานนี้มา คุณภาพความสดของปลาดิบนั้นถือได้ว่าสดมาก ให้ที่ชอบทานซาชิมิ ห้าพลาด!
image
แต่หากว่าเบื่ออาหารเอเชีย อยากลองอาหารอิตาลี่ดูบ้าง ที่นี่ก็มีเคาน์เตอร์อาหารอิตาลี่เช่นเดียวกัน คุณสามารถเลือกเส้นพาสต้าที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็น Spaghetti, Rotini, หรือ Manicotti เลือกปรุงกับซอสที่ชอบ เช่น Carbonara, Bolognese เป็นต้น
image
มาดูตัวอย่างของจานที่ปรุงสำเร็จครับ สปาเก็ตตี้โบลองเนส โรยหน้าด้วยชีส โดยรวมรสชาติจัดว่าดีเลยทีเดียว ซอสโบลองเนสไม่เปรี้ยวจนเกินไป ขณะที่เส้นก็ได้ที่กำลังดี
image
ถัดจากอาหารอิตาลี่ ก็มาถึงอาหารทะเลซึ่งจัดว่าเป็นอีกไฮไลท์เด็ดของบุฟเฟ่ต์ที่นี่
image
กุ้งล็อปสเตอร์ตัวใหญ่วางอยู่บนแท่นน้ำแข็งกลางร้านอาหาร และยังมีกุ้งตัวใหญ่ที่ปลอกเปลือกเรียบร้อยอีกวางรอให้หยิบ ขนาดของกุ้งล็อปสเตอร์นั้นอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ทุกตัวมีมันกุ้งที่หัว ถ้าใครชอบทานกุ้งที่มีมันกุ้ง รับรองได้ว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน ขณะที่กุ้งตัวใหญ่ที่ปลอกเปลือกแล้ว ทำให้ท่านทานได้อย่างสะดวกขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่หลายๆคนชอบ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือแม้ว่าทางร้านจะบอกว่าเป็นซีฟู้ดบุฟเฟ่ต์ แต่ตัวเลือกของอาหารทะเลนั้นก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด
image
อีกเมนูหนึ่งที่เวลามาที่หลายคนถามหาเวลาทานบุฟเฟ่ต์ นั่นคือ ฟัวการส์นั่นเอง ฟัวการส์ที่นี่ต่างจากที่อื่นคือปรุงสำเร็จมาแล้ว ตั้งอยู่ในหม้อ ราดซอสเรียบร้อยให้ท่านเลือกตักได้เลย ไม่ต้องยืนรอคิวเหมือนที่อื่น สามารถตักได้มากเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องอายใคร
image
นอกจากฟัวกราส์แล้ว อีกเมนูเด็ดที่ทุกคนต้องลองก็คือ Smoked Ham แสงสีการจัดวางล่อตาล่อใจทุกคนให้ลองชิม แฮมเนื้อแน่น ไม่เค็มจนเกินไป สามารถทานเปล่าๆ หรือเพิ่มรสชาติด้วยซอสที่ต้องการได้
image
แล้วนี่คือหน้าตาของอาหารทะเลและเนื้อของที่นี่ครับ ฟัวกราส์ของที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ แทบจะละลายในปาก แต่ทว่าทานหลายๆชิ้นอาจจะทำให้รู้สึกเลี่ยนได้ง่ายเช่นเดียวกัน
image
หลังจากเสร็จของคาวแล้ว ก็มาต่อกันที่ของหวานเลย  ตัวเลือกของหวานที่นี่นับได้ว่าเป็นสวรรค์ของสาวๆหรือคนที่ชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจได้เลย
image
สารพัดเค้กมากมากหลากหลายรสวางไว้ให้ท่านได้เลือกสรร ขณะเดียวกันก็มีขนมหวานแบบไทยๆ เช่น ทองหยิบ, ทองหยอด อีกด้วย เหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ค่อยลองทานขนมหวานไทยแท้ๆ จะได้ลองลิ้มชิมรสดู
แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือไอศรีม เครป เสิร์ฟพร้อมซอสกีวี่   สำหรับไอศกรีม มีตัวเลือกคือ รสวนิลา สตอเบอร์รี่ เป็นต้น โดยรวมแล้วเมื่อทานคู่กับเครปและซอสกี่วี่ ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก ที่สำคัญคือต้องกินไอศครีมและเค้กพร้อมกันในคำเดียว
image
ค่าใช้จ่ายสำหรับมื้อนี้ต่อคนคือ 2,060 บาท สำหรับประสบการณ์บุฟเฟ่ต์บนสุดยอดโรงแรม 5 ดาวระดับโลกอย่างโอเรียนเต็ล
สำหรับการเดินทางมาโรงแรม หากท่านขับรถมา ให้วิ่งมาบนถนนเจริญกรุง แล้วเลี้ยวเข้าทางซอยเจริญกรุง 40 ตรงเข้ามาซักระยะ จะเห็นโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลอยู่ทางขวามือ แต่ถ้าหากท่านะสะดวกที่จะมาโดยรถไฟฟ้า ให้ลงที่สถานีสะพานตากสิน ออกที่ทางออก 2 แล้วเดินไปรอเรือที่ท่าเรือสาธร จะมีเรือบริการรับส่งของโรงแรมคอยรับส่งทุก 10 นาที และใช้เวลา 5 นาทีถึงโรงแรม
image
ห้องอาหาร Lord’s Jim เปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์เฉพาะมื้อกลางวันและมื้อเย็น ทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจประสบการณ์ทานบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมแห่งนี้มาก ดังนั้นการโทรจองโต๊ะตั้งจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับที่นี่  อย่าลืมระบุที่นั่งริมกระจกหากท่านอยากนั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนการแต่งกายเหมือนกับร้านอาหารในโรงแรมทั่วไป คือ smart casual

ข้อมูลทั่วไปร้าน Lord Jim's – Mandarin Oriental
เวลาทำการ:
บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน:
         วันจันทร์, พุธ, พฤหัส ศุกร์     12:00 AM - 2:30 PM
         วันเสาร์                               11:30 AM - 3:00 PM
         วันอาทิตย์                            11:00 AM - 3:00 PM
บุฟเฟ่ต์มื่อเย็น:                               7.00 – 10.30 PM
ที่อยู่:
48 ซอยบูรพา ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก, กรุงเทพ, ไทย 10500
แผนที่:

No comments:

Post a Comment