ตำนานของฟัวกราส์... จากอียิปต์โบราณ สู่อาหารฝรั่งเศสสุดหรู

  • 0
image
ฟัวกราส์ อาหารฝรั่งเศสสุดหรูที่ใครก็ยากจะปฏิเสธในเรื่องของความนุ่มของเนื้อที่แทบจะละลายในปาก ในขณะเดียวกันมันก็ถูกตีตราว่าเป็นอาหารบาปที่แลกมาด้วยความทรมาณของสัตว์



หากจะเล่าถึงต้นกำเนิดของอาหารสุดหรูจานนี้ จะต้องย้อนไปถึง 2,500 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยอียิปต์โบราณเลยทีเดียว  ชาวอียิปต์ค้นพบว่าหากบังคับนกให้กินอาหารโดยการสอดท่อเข้าไปในหลอดอาหาร แล้วยัดอาหารใส่เข้าไปเรื่อยๆ นอกจากจะทำให้นกอ้วนจ้ำม่ำแล้ว ยังทำให้ตับของนกมีขนาดโตขึ้อีกด้วย ชาวอียิปต์มีความเชื่อว่าตับของนกเป็นยาบำรุงทำให้ร่างกายแข็งแรง

image

ต่อมาด้วยการค้า และการติดต่อระหว่างอียิปต์และโรมัน ทำให้วิธีการให้อาหารสุดพิสดารนี้ข้ามทะเลเมดิเตอเรเนี่ยนเข้าสู่ยุโรปเป็นครั้งแรก และชาวโรมันก็ได้พัฒนาวิธีการให้อาหารดังกล่าวด้วยการเปลี่ยนจาก นก เป็น ห่าน ซึ่งเป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่กว่าและสามารถขยายขนาดของตับได้มากกว่า ชาวโรมันเรียกอาหารจานนี้ว่า “iecur ficatum” (iecur แปลว่า ตับ ส่วน ficatum แปลว่า มะเดื่อ เพราะขนาดของตับห่านนั้นใหญ่เท่ากับผลมะเดื่อนั่นเอง) ไม่นาน iecur ficatum กลายเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางและชนชั้นสูงของโรมัน ในทุกงานเลี้ยงจะต้องมีการเสิร์ฟตับห่านเป็นอาหารเสมอ

image

หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน ฟัวกราส์ก็สาบสูญไปจากยุโรปเป็นพันปี แต่ทว่าความรู้เกี่ยวกับการทำฟัวกราส์ยังคงถูกสืบทอดต่อโดยชาวยิว ซึ่งได้รับความรู้นี้เมื่อตอนอาณาจักรโรมันล่าอาณานิคมไปจนถึงตะวันออกกลาง ภายหลังวิธีการสร้างตับห่านนี้ก็กลายเป็นที่นิยมของขุนนางชาวยิวในปาเลสไตน์อย่างมาก ฟัวกราส์กลับเข้าสู่ยุโรปอีกครั้งเมื่อชาวยิวอพยพจากตะวันออกกลางสู่ยุโรปตะวันตก พวกเขาได้นำเอาความรู้เกี่ยวกับการสร้างอาหารนี้มาด้วย

image

ในปี ค.ศ. 1788 ผู้ว่าการเขต Alsace ของฝรั่งเศสได้ถวายเมนูตับห่านนี้แก่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กษัตริย์ผู้ขึ้นชื่อว่าฟุ่มเฟือย และใช้ชีวิตอย่างหรูหราที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ยุโรป ปรากฏว่าอาหารจานนี้กลายเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าหลุยส์อย่างมาก จึงทรงได้นำเอาฟัวกราส์มาเป็นอาหารในราชวังและเผยแพร่สู่ประเทศต่างๆในยุโรป

และนี่คือความเป็นมาว่าทำไมฟัวกราส์ถึงได้กลายเป็นอาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศสจนมาถึงปัจจุบันนี้

image
image
image

No comments:

Post a Comment