[รีวิว] Scarlett – Pullman G Bangkok Hotel

  • 0

image
Review by Flash
วันนี้เราเอาใจคออาหารฝรั่งเศสกันสุดๆ กับร้าน Scarlett ที่เชฟ Manuel Martinez เป็นผู้คิดค้นสูตรและเมนูต่างๆ โดยที่ฝีมือเชฟท่านนี้ได้รับการการันตีความอร่อยจากตำแหน่ง 2-Michelin Star ซึ่งเป็นรางวัลระดับโลกเลยก็ว่าได้ โดยปกติแล้วหากอยากจะทานอาหารระดับ Michelin Star ต้องไปกันถึงเมืองนอกเลยทีเดียว ในวันนี้จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีจริงๆ ที่จะได้ลิ้มลองรสชาติจากเชฟมือทองท่านนี้ ง่ายๆ เพียงแค่มาที่ โรงแรม Pullman G Bangkok และสิ่งที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่ยอมรับระดับโลกคงจะไม่ได้มีเพียงเรื่องรสชาติอย่างเดียวแน่นอน บรรยากาศของร้านก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เนื่องจากร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสีลม ชั้น 37 ท่านจะสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของมหานครสุดคลาสิก พร้อมกับอาหารอันเลื่องชื่อ เรามาดูกันว่าร้านนี้จะยอดเยี่ยมสมกับระดับ 2 ดาวหรือไม่



image
เริ่มจากบรรยากาศของร้านกันเสียก่อน เมื่อออกจากลิฟท์ท่านจะพบกับป้ายร้านทันที สัญลักษณ์รูปดอกไม้สีแดงและอักษรเหล็กชื่อร้านลอยเด่นบนพื้นไม้สีเข้ม เสริมด้วยลูกเล่นจากการนำขวดสีเขียวเข้มมาปักเข้ากับกำแพง พร้อมเปิดไฟย้อนขวดขึ้นมา อีกทั้งการแอบซ่อนไฟไว้ตามมุมต่างๆ มากมาย ทำให้ป้ายร้านดูมีความแปลกแต่สวยงามขึ้นมาทันตา
image
จากนั้นท่านจะพบกับทางเดินเข้าร้านที่ถูกขนาบด้วยตู้เก็บไวน์ทอดยาวตลอดทาง พร้อมทั้งกระดานดำขนาดใหญ่แสดงลิตส์ รายชื่อไวน์ทั้งขาวและแดง ให้เป็นความรู้ประกอบอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งไวน์ที่หนึ่งของโลก ร้านอาหารฝรั่งเศสขนานแท้ระดับนี้ย่อมไม่ทำให้คอไวน์ผิดหวังอย่างแน่นอน
image
เมื่อเดินต่อกันมาถึงภายในตัวร้าน ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศร้านสวยงามมาก ทางร้านจัดโต๊ะนั่งหลายรูปแบบไว้ให้บริการ ซึ่งมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor
image
บรรยากาศภายในร้าน ขอเริ่มจากจุดเด่นสำคัญอย่างแรก คือบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางร้าน แก้วไวน์ที่ถูกแขวนเรียงรายล้อมรอบบาร์ อีกทั้งลีลาการชงเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทลหรือม็อกเทลของบาร์เทรนเดอร์ ก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ในการนั่งติดเคาร์เตอร์บาร์ได้เป็นอย่างดี หรือจะเลือกนั่งเป็นโต๊ะส่วนตัวติดหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวได้อย่างชัดเจน ก็นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน และสุดท้ายของที่นั่ง Indoor กับโต๊ะยาวทรงสูง ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่งในการทานอาหาร โดยส่วนตัวชอบการตกแต่งของร้านนี้มาก ครั้งนี้จึงขออนุญาตอวดรูปบรรยากาศมากหน่อยนะครับ
image
image
image
หรือบรรยากาศแบบ Outdoor ก็สวยงามไม่แพ้กัน ภายนอกตกแต่งด้วยการเน้นใบไม้สีเขียวให้มีความรู้สึกร่มรื่น มีบริการทั้งโต๊ะแบบทรงต่ำจัดชิดติดขอบระเบียง ทำให้มองเห็นวิวแบบเต็มที่ ถือเป็นโต๊ะสุดพิเศษจริงๆ หรือโต๊ะทรงสูงเหมาะกับลูกค้าที่มากันหลายท่าน เพื่อความสะดวกในการพบปะพูดคุย แต่ท่านที่ชื่นชมวิวของตัวเมืองพลาดไม่ได้เลยกับ ที่นั่งขอบระเบียงกระจกแบบหันหน้าออก ให้ความรู้สึกหรูหรา
image
นอกจากนี้ภายในร้านยังมีมุมต่างๆ ที่อดสังเกตไม่ได้ 3 จุดด้วยกัน ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในร้านซ้ายมือของท่านจะพบกับ มุมอาหารพิเศษประจำวันนอกเหนือจากเมนูปกติ ซึ่งแต่ละเมนูเป็นอาหารจริงที่ถูกทำขึ้น แต่ละอย่างดูน่าทานไปหมด ช่วยให้ตัดสินใจเลือกเมนูได้ดีขึ้น และต่อมากับด้านตรงข้าม ท่านจะพบกับ มุมชีส ตู้โชว์ชีสขนาดใหญ่ มีชีสให้เลือกมากมาย แต่ละชนิดถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีในอุณหภูมิที่พอเหมาะ คนรักชีสไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง และสุดท้ายกับ มุมเตาอบขนมปังและเนื้อแฮมต่างๆ ขนมปังฝรั่งเศสชิ้นยาวตั้งเด่น พร้อมเนื้อแฮมที่ถูกหมักมาอย่างดี แค่เพียงเห็นก็ทำให้อยากอาหารเสียแล้ว
image
เมื่อเวลาล่วงเลย ฟ้าเริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นสีครื้ม แสงไฟในร้านกลับดูเด่นชัด ทำให้เห็นว่าทางร้านจัดแสงและเงาได้เป็นอย่างดี ร้านในตอนกลางคืนสวยงาม ทุกสิ่งดูลอยเด่นทามกลางแสงไฟสีส้ม สลัวๆ เล็กน้อย ทำให้เคลิ้มไปกับบรรยากาศแบบยุโรปเปี่ยนสไตล์
image
image
หลังจากตัดสินใจเลือกโซนเป็นที่เรียบร้อย พนักงานต้อนรับจะพาเดินไปที่โต๊ะ บนโต๊ะทุกตัวจะมีเทียนจุดไว้ช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกสุดๆ จากนั้นเมื่อสั่งอาหารเสร็จสิ้น ตามสไตล์อาหารยุโรปจะมีบริการรองท้องด้วย ขนมปังที่เสิร์ฟพร้อมเนย ขนมปังมีเนื้อหนึบเล็กน้อย แต่เคี้ยวซักพักจะรู้สึกว่าหนานุ่มกำลังดี มีกลิ่นหอมชวนทาน รสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อยแต่ทานไปเรื่อยๆ จะรู้สึกหวาน ซึ่งเป็นรสแบบสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ เนยที่เสิร์ฟมา มีรสเค็มเล็กน้อย แต่ที่สำคัญคือหอมมาก กลิ่นหอมคล้ายชีสไม่แต่เข้มข้น นับเป็นเนยชั้นดีจริงๆ จากการสอบถามพบว่าเป็น เนยนำเข้า แค่ขนมปังรองท้องก็ทำให้ประทับใจกันเสียแล้ว
image
image
แต่ยังก่อนเรามาลอง Starter ของจริงกัน เริ่มจากเมนู Lobster Bisque หรือซุปกุ้งมังกรนั้นเอง ซุปสีส้มน่าทานเสิร์ฟพร้อมขนมปังที่อบเป็นรูปตะแกงครอบมาบนจานซุป ดูสวยงามพิถีพิถัน เมื่อลองตักดูพบว่ามีฟองซุปสุดหรู จากเครื่องทำฟองที่เรียกว่า Espuma อีกด้วย เป็นเครื่องยืนยันความหรูหราของร้านนี้ได้อีกครั้งหนึ่ง ซุปมีเนื้อไม่ข้นมากนัก ทำให้ซดได้คล่องคอไม่เลี่ยนแต่อย่างใด ซุปรสชาติหวานกำลังดี หอมมันกุ้ง มีความนุ่มลึกของส่วนผสมต่างๆ ที่บรรยายไม่ถูก แต่เมื่อผนวกรวมกับฟองซุปให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ยิ่งทานคู่กับขนมปังอบที่ดูเหมือนมีดีแค่รูปร่าง แต่บอกตามตรงผมเจอหลอกเข้าให้เสียแล้ว เนื้อแป้งกรอบร่วน เข้ากับน้ำซุปเป็นที่สุด และพระเอกของจานคือเนื้อกุ้งมังกรส่วนก้าม หวานนิ่ม แต่เมื่อเคี้ยวรู้สึกเด้งเล็กน้อย ต้องลองจริงๆ
image
ต่อมากับ Starter ขึนชื่อของอาหารฝรั่งเศสกับ Poached Egg “Meurette” ว่ากันว่าไข่ไก่สามารถนำมาประกอบอาหารได้มากมายหลายเมนู แต่เมนูที่ขึ้นชื่อว่า หรูหราและทรงคุณค่าที่สุดของไข่ไก่ต้องยกให้ Poached Egg อย่างไม่ต้องสงสัย เสิร์ฟมาในลักษณะที่ไข่ขาวสุกปานกลางไข่แดงยังไหลเยิ้มน่าทาน ไข่ขาวมีกรดอะมิโนหลายตัวที่จะมีประโยชน์กับร่างกายก็ต่อเมื่อทานแบบสุก ตรงข้ามกับไข่แดงจะให้คุณค่าสูงสุดเมื่อทานแบบดิบๆ เมนูนี้จึงเป็นการผนวกรวมกันของทั้งไข่ขาวและไข่แดงที่นอกจากจะให้คุณค่าทางโภชนาการแล้วยังให้รสชาติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ทานคู่กับน้ำซอสสูตรพิเศษของทางร้านกับ Red Wine and Lardon Sauce ซอสรสเนื้อเข้มข้น มีกลิ่นหอมของไวน์แดง Pinot Noir เสริมด้วยขนมปังกรอบและเห็ด เมื่อทานทุกอย่างรวมกัน ไข่ขาวรสชาติอ่อนๆ นุ่มนิ่ม เพิ่มความมันด้วยไข่แดงที่ไหลเยิ้ม พร้อมซอสที่ได้ความหวานมัน เห็ดสุกกำลังดีเคี้ยวแล้วหนึบๆ เปลี่ยนรสสัมผัสด้วยขนมปังกรอบ นับเป็นอีกหนึ่งสุดยอด Starter ที่ช่วยสร้างความประทับใจ
image
image
หลังจากเรียกน้ำย่อยกันพอหอมปากหอมคอ เรามาเริ่มเมนู Main course กัน กับเมนูแรก Lamp Chop ท่านสามารถเลือกระดับความสุกได้ตามชอบ แน่นอนคนรักสเต็กแบบผมไม่พลาดที่จะเลือก Medium Rare เสิร์ฟมาในลักษณะติดกระดูกซี่โครงยาวน่าทาน พร้อมซอส 2 ชนิดสีตัดกันสวยงาม เมื่อหั่นดูพบว่า ย่างมาอย่างสุดยอดข้างนอกสุกเกรียมเล็กน้อยกำลังหอม ด้านในสีแดงอ่อนเสมอกันทั้งชิ้น ไม่มีดิบไปหรือสุกไป เป็นการย่างที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ได้รสชาติเนื้อเต็มๆ คำ กลิ่นหอมมากไม่มีกลิ่นสาบแต่อย่างใด ซอสช่วยเสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี ยิ่งทานคู่เครื่องเคียง มันหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมโรยด้วยมะกอกดำและมะเขือเทศ มันรสชาติหวานมาก พร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมะกอก บอกได้คำเดียว เป็น Lamp Chop ที่อร่อยที่สุดที่เคยทานจริงๆ
image
image
อีกหนึ่ง เมนูแนะนำของทางร้านกับ La Joue de Boeuf หรือ เนื้อแก้มวัวตุ๋น ทางร้านเลือกใช้เนื้อส่วนแก้ม ที่มีเอ็นแก้วสอดแทรกอยู่ นำไปตุ๋นจนนุ่ม เอ็นกลับกลายเป็นเจลลาติน ละลายออกมาให้เห็น ตุ๋นมาในซอสรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมไวน์ เสริมความหอมด้วยเบคอนเล็กน้อย เนื้อมีความนุ่มมากเพียงแค่ใช้ส้อมกดเล็กน้อยก็สามารถหั่นได้ ด้านในของเนื้อยังเป็นแบบ Medium ให้ความหวานของเนื้อได้อย่างเต็มที่ เนื้อนุ่มตามที่คาด แทบละลายในปาก ซอสรสชาติเข้มซึมเข้าเนื้อได้อย่างพอดี รสไม่จัดเกินไป เป็นอีกเมนูที่พลาดไม่ได้
image
image
ปิดท้ายเมนูของคาวกับเมนู Pasta Vongole ท่านสามารถเลือกเส้นได้ 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ Spaghetti, Fettuccini และ Penne ในวันนี้เราขอทดสอบฝีมือของเชฟกันด้วยหนึ่งในเส้นที่ทำให้อร่อยยากที่สุดกับ Fettuccini Vongole พาสต้าแบบแห้งผัดกับหอยลายด้วยน้ำมันมะกอก กระเทียม และเครื่องเทศนานาชนิด โรยด้วย Parmesan Cheese แต่กลิ่นแรกที่ได้รับกลับเป็นกลิ่นไวน์ขาวหอมลอยเด่นออกมาเตะจมูก เมื่อคลุกเคล้าให้เข้ากัน เส้นเหนียวนุ่มสุดยอด รสชาติเครื่องปรุงความร่อยต่างๆ รวมถึงความหวานของหอยตกอยู่ที่เส้น รสออกกลมกล่อม หวานเค็มมัน ครบทุกรสจริงๆ ต่างจาก Fettuccini ทั่วไปมากนัก ให้ผ่านการทดสอบอย่างไม่ต้องสงสัย
image
ปิดท้ายด้วยของหวานที่มีให้เลือกกันมากมาย ในวันนี้ขอเลือก Mille Feuille Grands Augustins แป้งพายที่อบอย่างดีวางสลับชั้นกับครีมวนิลาสูตรเด็ดของทางร้าน วางซ้อนทับกันสูงถึง 9 ชั้น สุดท้ายราดด้วยซอสเข้มข้น เสิร์ฟมาบนจานอุ่นร้อน เนื้อแป้งพายอุ่นๆ แต่ละชั้นกรอบร่วน กัดแล้วแตกละเอียด เคียงคู่กับครีมวนิลาหอมหวานกลมกล่อมกำลังพอดีไม่หวานไป ได้กลิ่นวนิลาอย่างชัดเจน เนื้อครีมเย็นเล็กๆ ตัดกับเนื้อแป้งอุ่นๆ เป็นสัมผัสที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ยิ่งทานคู่กับซอสที่ได้กลิ่นหอมของเหล้ารัมอย่างชัดเจน เหมาะเป็นเมนูปิดท้ายของวันเป็นที่สุด
image
ในวันนี้รู้สึกประทับใจกับเชฟระดับ 2-Michelin Stars มาก ยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือจริงๆ แต่ละเมนูถูกรังสรรค์มาอย่างดี มีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ขอยอมรับตามตรง ในบางเมนูมีรสอร่อยจนบรรยายไม่ถูกจริงๆ เนื่องจากแต่ละเมนูคงใช้วัตถุดิบมากมายแน่นอน เพื่อให้ได้รสชาติที่ลึกซึง เช่นนี้
image
image
ขอแนะนำให้มาในตอนก่อนฟ้ามืดเล็กน้อย ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศทั้งยามมีแสงและยามค่ำคืน และหากท่านโชคดีท่านจะได้เห็น วิวพระอาทิตย์ตกดินสุดคลาสิกอีกด้วย เหมาะที่จะมาทานดินเนอร์สุดหรูกับคนรู้ใจเป็นที่สุด
ในวันนี้รวมค่าอาหารทั้งสิ้น 3,305 บาท (ทานกัน 3 ท่าน) ถือว่าคุ้มค่ามาก ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม รสชาติอาหารระดับโลก ทุกอย่างต่างสมบูรณ์แบบจริงๆ โดยปกติการได้ลิ้มลองอาหารของเชฟระดับ Michelin star เชื่อว่าราคาคงสูงกว่านี้อย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นคออาหารตัวยงไม่ควรพลาดที่จะมาแวะเวียนที่ร้าน Scarlett ด้วยประการทั้งปวง
image
การเดินทางมาที่โรงแรม Pullman G ไม่ยากเลย โรงแรมตั้งอยู่ย่านสีลม ขอแนะนำให้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หากมาจากถนนพระราม 4 มุ่งหน้าสามย่านให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลม แล้วตรงไปยังแยกเดโช ท่านจะเห็นตึกสูงของโรงแรมอยู่ขวามือท่าน หรือหากเดินทางด้วย BTS ให้ลงที่สถานี ศาลาแดง แล้วนั่งรถต่อมาโรงแรม เมื่อเข้าสู่โรงแรมเดินตรงเข้ามาด้านในขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น 37 ได้เลย

ข้อมูลทั่วไปของร้าน Scarlett - Pullman G Bangkok Hotel
Opening Hour:
ให้บริการเฉพาะมื้อเย็น 6.00 PM - 1.00 AM (แต่งกายชุดสุภาพ)
Address:
 ถนนสีลม, เขตบางรัก, กรุงเทพ
Map:

No comments:

Post a Comment