[รีวิว] Taihei - Banyan Tree Bangkok

  • 0
image
Review by Flash
ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูตกแต่งสไตล์ Modern ผสมกลิ่นอายแบบฉบับญี่ปุ่นใจกลางเมืองย่านสาทร ไม่อยากให้พลาดจริงๆ กับร้าน Taihei ณ โรงแรม Banyan Tree Bangkok  ชั้น 53 การตกแต่งร้านทำได้อย่างดีคล้องจองกับชื่อร้านTai hei ซึ่งแปลเป็นไทยว่า เงียบสงบ แต่เมื่อได้ลิ้มรสอาหารที่รังสรรค์โดยยอดเชฟของทีนี้ กลับเหมือนถูกกระชากอารมณ์ให้รู้สึกตื่นเต้นไปกับรสชาติได้ดีเสียจริงๆ



image

เมื่อออกจากลิฟต์ชั้น 53 ท่านจะพบกับทางเข้าร้านที่ผสานการเล่นแสงและเงาระหว่าง ผนังที่มีศิลปะสมัยใหม่เน้นความสร้างสรรค์กับแจกันใส่กิ่งไม้แห้งแทนความรู้สึกโบราณ เป็นลูกเล่นศิลปะที่เกิดจากการใช้ความขัดแย้งด้านเวลาในแง่เก่าและใหม่ แต่ยิ่งมองกลับยิ่งรู้สึกเข้ากันอย่างลงตัว ไม่เพียงเท่านี้ ทางร้านยังจุดเทียนหอมเพิ่มบรรยากาศชวนให้หลงใหลมากยิ่งขึ้น

image

เมื่อเดินต่อเข้ามา จะพบว่าทางเดินเข้าสู่โซนต่างๆ ตกแต่งได้อย่างวิจิตรบรรจง ใช้แผ่นหินสีดำปูเป็นทางเดิน คั่นกลางด้วยก้อนหินเล็กๆ สีขาว เป็นอีกครั้งที่ใช้ศิลปะของความตรงกันข้ามได้อย่างดี ข้างทางประดับด้วยม้านั่งไม้ที่มีดอกไม้สีสดตัดกับลายไม้ พร้อมแผ่นกระจกแก้วสีสันสวยงาม

image

ทางร้านได้จัดสรรโซนต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโซนซูชิบาร์ เทปันยากิ หรือ โซนทั่วๆ ไป เริ่มจากโซนแรก ซูชิบาร์ ท่านจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเชฟนักปั้นซูชิ เลือกรับประทานซูชิพร้อมชมลีลาการปั้นได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ จากชั้น 53 ได้อย่างปลอดโปร่ง

image

หรือที่โซนเดียวกันนี้ ก็มีโต๊ะส่วนตัวบริการเช่นกัน ผนังโดยรอบตกแต่งด้วยขวดสาเก เพิ่มบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ได้เป็นอย่างดี

image

หรือถัดมาที่บันไดวนทอดยาวสู่ โซนเทปันยากิที่จัดไว้ชั้นบน สำหรับท่านที่ชื่นชอบอาหารสไตล์เทปันยากิ ขอแนะนำให้นั่งที่เคาน์เตอร์ เนื่องจากทางร้านจำกัดจำนวนที่นั่งเพื่อให้ลูกค้าแต่ละท่านได้รับบริการอย่างเต็มที่

image

มาถึงโซนที่เราจะนั่งในวันนี้ มีโต๊ะให้เลือกทั้งแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ คือโต๊ะแบบต่ำหรือจะนั่งที่หน้าเคาน์เตอร์ก็ได้ ในครั้งนี้ทางร้านได้จัดโต๊ะริมหน้าต่าง นับว่าเป็นตำแหน่งที่ดีมากในการชมวิวที่สวยงาม ทั้งร้านถูกล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่  เสริมด้วยการตกแต่งที่เรียบง่าย ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งไม่อึดอัด เหมาะแก่การนั่งชมวิวและทานอาหารยิ่งนัก

image
image

หลังจากอิ่มเอมกับบรรยากาศเต็มที่แล้วเรามาเริ่มสั่งอาหารกันเลย ทางร้านจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ไว้ ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย เทปันยากิ ซูชิ ซาชิมิ เทมปุระ ของย่าง ข้าวหน้าต่างๆ และของหวาน อาจไม่ได้มีหลายหมวดนัก แต่บอกได้เลยว่า แต่ละหมวดครบเครื่องและเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพจริงๆ และทางร้านยังมีบริการ  Lunch set menu อีกด้วย

image

เริ่มต้นกันด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยเบาๆ สลัดเต้าหู้ญี่ปุ่น Tofu Salad เต้าหู้เย็นๆ  ทานคู่กับผักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศราชินีลูกเล็กรสชาติหวานอมเปรี้ยว ไชเท้าสดนำมาสไลด์เป็นเส้นยาวๆ ประดับด้วยสาหร่ายญี่ปุ่นทั้งแดงและเขียว ช่วยให้สลัดจานนี้ดูเด่นขึ้นมาทันตา และรากบัวหั่นบางๆ นำไปทอดจนกรอบ สุดท้ายราดด้วยน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้านคือน้ำสลัดมิโสะผสมใบจิโสะ เมื่อทานทุกอย่างพร้อมกันจะได้รสหวานอ่อนๆ ของเต้าหู้ชั้นดีมีเนื้อนุ่มเนียน เปลี่ยนรสสัมผัสด้วยรากบัวทอดกรอบ ผสมกันอย่างกลมกล่อมด้วยน้ำสลัดรสชาติหวานอมเปรี้ยวด้วยรสเลมอน หอมกลิ่นมิโสะและใบจิโสะขึ้นจมูก นับเป็นอีกหนึ่งเมนูสลัดที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

ตามต่อกันด้วย Lunch Set สุดพิเศษที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ เอาใจคนที่เร่งรีบโดยเฉพาะ เนื่องจากเซ็ตอาหารกลางวันของทางร้านทุกเซ็ตจะเสิร์ฟพร้อม ออเดิร์ฟ และของหวาน เรียกว่าครบในเซ็ตเดียว คุ้มค่าและประหยัดเวลาแน่นอน ทางร้านมีให้เลือกมากมายหลายเซ็ตแต่วันนี้ขอเลือก เซ็ตปลาดิบ Sashimi Set

image

เริ่มกันด้วย เมนู Starter 3 อย่าง 3 สไตล์ ซ้ายสุดคือมินิสลัดปูอัด ปูอัดชั้นดีเนื้อแน่นทานคู่กับแตงกวาญี่ปุ่นกรอบๆ ราดน้ำสลัดใสรสเปรี้ยว เรียกน้ำย่อยได้อย่างดี ต่อมาเป็นขาเห็ดซีอิ้ว นำแค่ส่วนขาของเห็ดมาต้มซีอิ้ว ขาเห็ดหนึบๆ กำลังดีไม่เหนียว ไม่เค็มเกินไป สุดท้ายเป็น โซบะเส้นขนาดกลาง เส้นลื่นเนียนไม่เละ พนักงานแอบมากระซิบว่า Starter ของแต่ละวันไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับเชฟจะจัดเมนูใดมาให้ เรียกว่ามีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ให้ลูกค้าได้ลุ้นกัน

image
image

และก็มาถึงพระเอกของเซ็ตนี้ ซาซิมิ4 อย่างเสริฟพร้อมข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ ซุปมิโสะ และเครื่องเคียง เริ่มจากเนื้อปลารสอ่อนสุดอย่างปลาไท Tai ที่อยู่ขวาสุด เนื้อสีขาวใสรสชาติหวานอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย เนื้อนิ่มไม่เหนียวไม่มีพังผืด ต่อกันด้วยปลาซาวาระ Sawara ตรงกลาง ปลาเนื้อขาวสีอมชมพูดูน่าทาน นำไปย่างอ่อนๆ ที่ผิวให้มีกลิ่นเกรียมนิดๆ เพื่อให้ไขมันที่ขอบละลายออกมาได้รสหวานเข้มข้นยิ่งขึ้น  ถัดจากนั้นมากันที่ซาชิมิยอดนิยมอย่าง แซลมอน Salmon แค่ดูลายมันแทรกระหว่างเนื้อก็พอจะเดารสชาติออก แต่พอทานเข้าไปกลับได้รสหวานมันเข้มข้นกว่าที่คาดไว้เสียอีก เป็นเครื่องรับประกันความสดได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายกันด้วย ปลาโอ Maguro เมื่อแรกเห็นซาชิมิชิ้นโตมันแทรกขนาดนี้ จากเนื้อที่ควรจะเป็นสีแดง กลายเป็นสีชมพูอ่อนดูน่าทาน คิดในใจ ใช่ Maguro แน่หรือ จึงเรียกพนักงานมายืนยัน ปรากฏเป็น Maguro จริงๆ เมื่อทานบอกได้คำเดียว นี่คือสุดยอดของ Maguro เนื้อแทบจะละลาย ไม่ต้องใช้ฟันกัดเสียด้วยซ้ำ รสชาติหวานมันเข้มข้น ถ้าไม่บอกต้องคิดว่าเป็น Chu-Toro แน่ๆ แค่ Maguro ยังขนาดนี้ หากมีโอกาสมาทานอีกต้องไม่พลาดที่จะลองสั่ง Otoro มาทานอย่างแน่นอน

image

เมื่อมีข้าวสวยร้อนๆ อดไม่ได้จริงๆ ที่จะสั่ง ไข่ปลาค็อดย่าง Yaki Mentaikoไข่ปลาย่างร้อนๆ เพิ่มรสชาติด้วยเลมอน ทานคู่กับข้าวสวยนุ่มๆ แค่นำมาคลุกกับข้าว ก็ได้รสชาติหวานมัน เค็มนิดๆ ได้กลิ่นหอมของทะเล ไข่ปลาเนื้อละเอียด เหมาะจะทานแกล้มกับสาเกยิ่งนัก

image

ถัดมากับเมนูแนะนำของทางร้าน มากิไส้ปูนิ่ม Spider Roll ใช้เทคนิคการห่อแบบกลับด้านนำข้าวออกมาด้านนอกไส้ข้างในเป็นปูนิ่มและแตงกวาหั่นตามยาว ทานคู่กับซีอิ้วญี่ปุ่นรสหวาน เนื้อปูนิ่มชิ้นโตทอดมาจนกรอบ แต่กัดแล้วรู้สึกว่าเนื้อหนานุ่มไม่แห้งเหมือนที่อื่น ทานคู่กับแตงกวากรอบให้ความรู้สึกสดชื่น ซอสไม่เข้มไปไม่กลบรสชาติของปูนิ่ม ลงตัวเป็นอย่างมาก

image

และเมนูที่จะขาดเสียมิได้เลยคือ เทปันยากิ ทางร้านมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น
เนื้อวัววากิว วัวออสซี่ หมูดำคุโรบุตะ หรืออาหารทะเลสดๆ วันนี้ทางร้านแนะนำ เมนู หอยเชลล์ญี่ปุ่นเทปันยากิ Hotate Teppan Yaki หอยเชลล์ตัวโตๆ นำไปย่างสไตล์ญี่ปุ่น ปรุงรสหลักด้วยซีอิ้ว เนื้อหวานข้างในสุกกำลังดี ไม่แข็ง ทานแล้วรู้สึกเด้งในปาก มีรสชาติแฝงคือกระเทียมช่วยให้เจริญอาหารยิ่งขึ้น และยังได้รสชาติเข้มข้น ทานคู่กับทาร์ทาร์ซอสสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมต้นหอมซอย และไชเท้า เป็นเทปันยากิที่สมบูรณ์แบบ

image

ปิดท้ายเมนูของคาวกันด้วย ข้าวหน้าปลาไหล Unaiyu ปลาไหลย่างซีอิ้วชิ้นโตเนื้อหนา ย่างมาให้เกรียมเล็กน้อยหอมกลิ่นไหม้ ที่ผิวทาด้วยซีอิ้วหวาน สะท้อนเป็นประกายแวววาวได้รสชาติหวานจากเนื้อปลา เนื้อเนียนนุ่มแต่รสชาติเข้มข้น ย่างออกมาได้อย่างพอดิบพอดี สุกจนถึงก้างเล็กๆ ที่ปกติแล้วจะเป็นอุปสรรคในการทาน แต่ในครั้งนี้ การย่างที่ดีทำให้ก้างเหล่านั้นนิ่มจนไม่รู้สึกว่ามีเสียด้วยซ้ำ และซอสทำหน้าที่เสริมรสได้อย่างดี เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เนื้อปลาไหลเด่นชัดขึ้นมา ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ให้รสชาติดีสุดๆ ต้องขอชื่นชมเชฟของร้านนี้จริงๆ ในเรื่องรสชาติ เชฟใช้ความเค็มของซอสและซีอิ้วได้เป็นอย่างดี จะเห็นว่าหลายเมนูมีการใช้ซีอิ้วควบคู่ แต่ไม่มีเมนูไหนเลยที่เค็มไป หวานไป ใช้ซอสเป็นตัวเสริมรสได้อย่างยอดเยี่ยม

image

มาถึงเมนูของหวาน เริ่มจากของหวานของเซ็ตซาชิมิ เสิร์ฟมาอย่างสวยงามน่าทานมี 3 อย่างด้วยกัน มีผลไม้ ไอศกรีมกะทิ และ ถั่วแดงต้มร้อนๆ เมื่อทานไอศกรีมเย็นๆ รสชาติมันกะทิแบบไทยๆ คู่กับถั่วแดงร้อนๆ ที่ไม่ข้นมากนักได้รสชาติถั่วแดง ต้องบอกว่าเป็นอีกครั้งที่ความตรงข้ามกันระหว่างร้อนกับเย็นเข้ากันได้อย่างลงตัว สุดท้ายจึงล้างปากกันด้วยผลไม้

image

แต่เท่านั้นยังไม่พอ พลาดไม่ได้เลยกับเมนูของหวานขึ้นชื่อของทางร้าน ไอศกรีมส้มยูสึ  Yuzu Ice Cream เสิร์ฟมาบนจานแช่เย็น ไอศกรีมเนื้อเนียนรสชาติหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ เนื้อไอศกรีมผสมด้วยเปลือกส้มยูสึที่เอามาฝนบางๆ จึงทำให้ได้กลิ่นส้มขึ้นจมูกชัดเจนในทุกคำที่ทาน แปลกใหม่ในเมืองไทยหาทานได้แค่ที่ร้านนี้เท่านั้น สมกับเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้านจริงๆ

ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกทาน หากท่านอยากเน้นทางด้านเทปันยากิ  ขอแนะนำให้เลือกนั่งที่โซนเทปันยากิจะได้ดูลีลาของเชฟพร้อมกับทานอาหารร้อนๆ หรืออยากจะเน้นซูชิบาร์ก็นั่งที่เคาน์เตอร์ได้เลย เพราะไม่ว่าจะนั่งที่โซนใด ก็ยังสามารถมองเห็นวิวจากชั้น 53 ได้อยู่ดี อีกทั้งพนักงานบริการดีมาก ให้คำแนะนำด้านอาหารได้เป็นอย่างดี

สำหรับวันนี้ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ทานไปทั้งหมด หลังได้รับส่วนลด 30% รวมอยู่ที่ 3,022 บาท นับว่าคุ้มค่ามาก เพราะได้ทานทั้งหอยเชลล์ที่สดหวานอร่อยและข้าวหน้าปลาไหลอย่างดีรสเข้มข้น ทางร้านมีโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย หากท่านถือบัตรเครดิต BBL Kbank Krungsi KTC หรือ  Citi bank เรียกว่าเกือบครบทุกแบงก์ ท่านจะได้รับส่วนลด 30% หรือหากมีบัตรสมาชิกของทางโรงแรม Banyan Tree ก็สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดได้ตามเงื่อนไข ดังนี้ หากมาทาน 1 ท่านจะได้รับส่วนลด 30% หรือ  2  ท่าน 50 %  และสุดท้าย 3 ท่าน 33%

image

การเดินทางมาโรงแรมบันยันทรีแนะนำให้ขับรถมาที่ถนนสาทร หากมาจากถนนพระราม 4 เลี้ยวเข้ามาสาทร ตรงไปไม่ไกลนัก โรงแรมจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ สังเกตเห็นง่าย เป็นตึกสูงๆ ที่มีสัญลักษณ์ของทางโรงแรมอยู่ และทางโรงแรมได้มีบริการรถรับส่งทั้งรถสามล้อ และรถตู้จากสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง และรถไฟใต้ดินลุมพินี แต่อาจจะต้องตรวจสอบเวลากับทางโรงแรมอีกครั้งเพื่อความสะดวกในการเดินทาง


ข้อมูลทั่วไปห้องอาหาร Tai hei @ Banyan tree Bangkok
Opening Hour:
มื้อกลางวัน                    11.30 – 14.30น.
มื้อเย็น                          18.00 – 23.00น.
Address:
21/100 ถนนสาทรใต้เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
Map:

No comments:

Post a Comment