[รีวิว] Shogun - Dusit Thani Hotel

  • 0
image
Review by Flash
ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา อาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมชื่นชอบถูกอกถูกปากคนไทยและแพร่หลายขึ้น จนสามารถหาทานได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป วันนี้เราจึงอยากแนะนำอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับรสชาติเยี่ยมกับร้าน Shogun เป็นเวลากว่า 30 ปีที่ทางร้านให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม จึงอยากให้ท่านได้ลิ้มลองเคล็ดลับความอร่อยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ว่าจะพิเศษและแตกต่างจากร้านทั่วๆ ไปอย่างไร



image
การตกแต่งให้ความสำคัญกับคำว่า “โชกุน” ตามชื่อร้าน เริ่มจากทางเข้าหน้าร้านทำเป็นซุ้มประตูราวกับทางเข้าปราสาทสไตล์ญี่ปุ่น บริเวณด้านหน้ามีชุดเกราะซามูไรแบบครบชุดตั้งแสดงไว้ นับเป็นอีกจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเก็บภาพความประทับใจ  อีกหนึ่งมุมเล็กๆ ที่น่ารักแต่ให้ความประทับใจไม่แพ้กัน คือมุมของบรรดานางกวักหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแมวอ้วน กระต่าย หรือม้า รวมถึงตุ๊กตาเด็กผู้หญิง ก็แสดงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
image
image
เมื่อก้าวเข้าไปภายในบริเวณที่นั่ง ท่านจะสัมผัสบรรยากาศราวกับอยู่ภายในปราสาทอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจำลองเพดานให้มีลักษณะเป็นคานไม้ของหลังคา ผนวกกับสัญลักษณ์สีทอง ต่างให้ความรู้สึกถึงความเป็นขุนนางชั้นสูง การเลือกใช้โคมไฟแบบญี่ปุ่นให้แสงสลัวๆ ช่วยสร้างความขลัง หรือการจัดแบ่งโซนต่างๆ โดยใช้ไม้ทำเป็นราวและผนังกั้นก็ทำได้อย่างลงตัว
image
image
นอกจากนี้ทางร้านยังมีห้องส่วนตัวไว้คอยให้บริการอีกด้วย จะนัดสังสรรค์เฉพาะกลุ่มหรือคุยธุรกิจก็ดูเหมาะสมทั้งสิ้น การตกแต่งเน้นเอกลักษณ์ญี่ปุ่น โดยการปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิ และเลือกใช้โต๊ะแบบต่ำ แต่ทำที่วางขาเพื่อความสะดวกสบายในการนั่ง อย่างไรก็ตามห้องส่วนตัวนี้ยังคงให้บรรยากาศแบบแดนซามูไร
image
หรือท่านจะเลือกนั่งที่โซนซูชิบาร์ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน กับการตกแต่งตามสไตล์ร้านซูชิแท้ๆ โดยการนำผ้ามาติดไว้ด้านบน โชว์วัตถุดิบต่างๆ ให้ท่านเลือกอย่างเด่นชัดพร้อมกับลีลาการปั้นของบรรดาเซฟ
image
เมื่อได้โต๊ะเป็นที่เรียบร้อย พนักงานจะนำชาเขียวร้อนมาบริการ ชาของทางร้านมีกลิ่นหอม แต่รสชาติไม่เข้มมากนักเหมาะสำหรับทานคู่กับอาหาร และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง ช่วงเวลาของการพิสูจน์เคล็ดลับความอร่อยกว่า 30 ปีกับร้านชื่อดัง เรามาดูกันว่าอาหารจะยอดเยี่ยมเหมาะสมกับตำแหน่งโชกุนหรือผู้นำของร้านอาหารญี่ปุ่น หรือไม่
image
เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยแนะนำของทางร้านกับเมนู ปูจ๋า Kohra Age แน่นอนว่ารสชาติแตกต่างจากปูจ๋าทั่วๆ ไปมากนัก ปูจ๋าของทางร้านเลือกใช้เนื้อปูและเนื้อกุ้งสับเท่านั้น นำไปยัดกระดองปูแล้วชุปเกล็ดขนมปังทอดให้เหลืองกรอบน่าทาน เนื้อปูหวานนุ่มบวกกับเนื้อกุ้งกรุบๆ ให้รสสัมผัสที่แตกต่างระหว่างทาน เนื้อปูใส่มาอย่างจุใจจริงๆ ยิ่งทานคู่กับซอสสูตรพิเศษ รสชาติคล้าย Thousand Island เพิ่มความเปรี้ยวด้วยการบีบมะนาว
image
และพิเศษสุดกับเมนู ข้าวหน้าปลาแซลมอนดิบ Shake Ikura Don ที่ลดถึง 50 % เพียงแค่ท่านจ่ายด้วยบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ ข้าวพันธุ์ญี่ปุ่นเม็ดสั้นอวบนุ่ม คลุกเคล้ากับน้ำส้มสายชูชั้นดีในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้ได้รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นหอมข้าว เสิร์ฟพร้อมแซลมอนแล่หนาปานกลางชิ้นใหญ่ พร้อมกับโรยไข่แซลมอนแบบเต็มที่ เมื่อทานคู่กัน ได้รสหวานจากซาชิมิแสดงถึงความสดได้เป็นอย่างดี ตัดกับรสเค็มแบบล้ำลึกของอิคุระหรือไข่แซลมอน เป็นเมนูที่หยุดทานไม่ได้จริงๆ เนื่องจากเคล็ดลับพิเศษของทางร้าน การใช้ขิงดองแบบหวานหั่นชิ้นเล็กๆ แทรกอยู่ระหว่างข้าวเนื้อขิงสีขาวรสชาติหวาน เคี้ยวกรุบๆ มีรสเผ็ดเล็กน้อย ทานแล้วสดชื่น ทำให้ทานได้อย่างไม่เบื่อเลย
image
ต่อมากับซูชิแนะนำต่างๆ เริ่มจากเนื้อปลารสชาติอ่อนสุดอย่าง ปลาฮามาจิ Hamachi ปั้นออกมาเป็นทรงรูปพัด ซึ่งเป็นทรงพื้นฐานที่สมบูรณ์ของซูชิสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เนื้อปลาหวานนุ่มเช่นเคย ข้าวรสชาติดี เป็นซูชิที่รักษาความอร่อยแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี
image
image
ถัดมากับ เอ็นกาวะ หรือ ครีบปลาตาเดียวย่างไฟ Engawa นำเอาส่วนครีบที่มีไขมันชุ่มฉ่ำไปย่างไฟอ่อนๆ ให้พอเกรียมเพื่อให้ได้ความหอมและไขมันละลายเล็กน้อย ลายการย่างเป็นระเบียบผิดกับการลนไฟแสดงถึงความพิถีพิถันของเชฟ เมื่อทานได้รสชาติหวานได้กลิ่นหอมสุดๆ เนื้อนิ่มไม่เหนียวหั่นโดยการเลี่ยงเอ็นออกสุดยอดจริงๆ ขอสารภาพตามตรงไม่เคยทานเอ็นกาวะที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน ความหอมต่างกับของร้านอื่นๆ มากนัก
image
ชิ้นต่อมาเพิ่มระดับความเข้มของรสชาติกับมากุโร Maguro Akami เนื้อปลาสีแดงสดใส นับว่าเป็นซูชิที่นิยมที่สุดของคนญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ รสชาติดีได้มาตราฐาน
image
และชิ้นสุดท้ายกับรสชาติที่เข้มสุดกับ ปลาไหลย่าง Unagi ปลาไหลย่างซีอิ้วชิ้นโตเนื้อหนา แต่เนื้อนุ่มมากย่างมาให้เกรียมเล็กน้อยหอมกลิ่นไหม้ ผิวเคลือบด้วยซีอิ้วหวานสะท้อนเป็นประกายแวววาว เมื่อทานได้รสชาติหวานจากเนื้อปลา เนื้อเนียนนุ่มแต่รสชาติเข้มข้น ย่างออกมาได้อย่างพอดิบพอดี ยิ่งทานคู่กับข้าวนุ่มๆ สูตรเด็ดเพิ่มความหอมด้วยสาหร่ายยิ่งสุดยอด
image
ปิดท้ายเมนูของคาวกับ เทปันยากิรสเด็ด 2 อย่าง 2 สไตล์ เริ่มจาก 1 ในวัตถุดิบสุดยอดของโลก ฟัวกราส์ หรือตับห่านนั้นเอง
image
นำมาย่างด้วยซีอิ้วหวานสไตล์ญี่ปุ่นแทนซอสรสเปรี้ยวหวานแบบยุโรปเสิร์ฟพร้อมกระเทียมสไลด์บางๆ ย่างพร้อมกัน ฟัวกราส์ชิ้นหนาหั่นเป็นลูกเต๋าย่างออกเกรียมเฉพาะที่ขอบ เนื้อในให้รสสัมผัสราวกับละลายในปาก หวาน มัน นุ่มละมุนสุดๆ หอมไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย ยิ่งทานคู่กับกระเทียม ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ฟัวกราส์ยิ่งขึ้น
image
อีกหนึ่ง ความอร่อยระดับโลก กุ้งแม่น้ำ Kawa Ebi นำมาย่างสไตล์เทปันยากิ กุ้งตัวโตๆ เนื้อแน่น เคี้ยวแล้วเด้งสู้ฟัน รสชาติไม่ต้องพูดถึงหวานแน่นอน ที่เด็ดสุดๆ คือ มันกุ้งแบบเต็มพิกัดตามสไตล์กุ้งแม่น้ำ ย่างให้เยิ้มๆ เล็กน้อย
image
รสชาติเข้มข้นมาก หอมกลิ่นมันกุ้ง  เป็นหนึ่งสุดยอดของดีจากกุ้งจริงๆ หรือจะทานคู่กับซอส 3 อย่างสไตล์เทปันเริ่มจาก ทาร์ทาร์ซอส ไชเท้า และ หอมซอย ก็ทำหน้าที่เสริมรสชาติของกุ้งได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้การทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแต่อย่างใด
image
และเช่นเคยตบท้ายด้วยของหวาน กับเมนูแนะนำของทางร้าน ข้าวเหนียวย่างคลุกแป้งชาถั่วเหลือง Abekawa Mochi นำโมจิไปย่างให้เกรียมเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อในยืดเวลาทาน แป้งโมจิร้อนๆ โรยด้วยผงชาเขียวและถั่วเหลืองผสมน้ำตาลสูตรเด็ด รสของแป้งโมจิหวานจากรสข้าว ผสมกับกลิ่นหอมขึ้นจมูกของชาเขียว เป็นขนมที่เหมาะแก่การปิดท้ายของวันจริงๆ
image
ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่ยอดเยี่ยมจริงๆ รสชาติสไตล์ดั้งเดิม รักษาพื้นฐานของเมนูต่างๆ ได้อย่างดี แต่ที่ประทับใจสุดๆ วันนี้ยกให้แก่ข้าวซูชิ ไม่ว่าจะการหุงหรือการปรุงกับน้ำส้มสายชูทำได้อย่างดี นุ่มหอม รสชาติพอดีต่างจากที่อื่นจริงๆ รวมถึงความสมดุลในแต่ละเมนู ถูกคิดคำนึงอย่างประณีตให้สามารถทานได้อย่างไม่เบื่อ หรือรู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด สิ่งเหล่านี้ถูกสอดแทรกมาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยเวลาทาน เช่นการใช้ขิงตามที่ได้กล่าวไป นอกจากเมนูแนะนำต่างๆ ทางร้านมีบริการอาหารอีกมากมาย และพิเศษกับ Lunch ราคาย่อมเยาไว้ให้บริการอีกด้วย
image
ทางร้านมีโปรโมชั่นร่วมกันบัตรเครดิตจากธนาคารกรุงเทพได้รับส่วนลดถึง 15% ทุกเมนูยกเว้น Lunch Set และยิ่งพิเศษไปกว่านั้นกับเมนูแซลมอนจะลดถึง 50% กันเลยทีเดียว ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น วันนี้รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งสิ้น 2,611 บาท นับว่าคุ้มค่ามาก ได้สัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จากแดนอาทิตย์อุทัย ความอร่อยแบบต้นรับที่ถูกถ่ายทอดยาวนานกว่า 30 ปี อยากให้ท่านได้ลิ้มลองจริงๆ
image
การเดินทางมาโรงแรมดุสิตธานี ไม่ยากเลยสะดวกมาก เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมือง ณ แยกสีลม หากขับรถมาทางถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปสามย่าน โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายที่หัวมุมสังเกตได้ง่าย หรือจะใช้รถสาธารณะ BTS ให้ลงที่สถานี ศาลาแดงแต่จะต้องเดินต่อมาค่อนข้างไกล จึงอยากแนะนำให้เดินทางโดย MRT ลงที่สถานี สีลม ทางออก 2 ขึ้น บันไดมาจะพบโรงแรมทันที เมื่อมาถึงโรงแรม ให้ไปที่ล็อบบี้ ชั้น 2 ร้านโชกุนจะอยู่ซ้ายมือของล็อบบี้
               
ข้อมูลทั่วไปของร้าน  Shogun - Dusit Thani Hotel
Opening Hour:
มื้อกลางวัน            11.30-14.00 น.
มื้อเย็น                    17.30-20.00 น.
Lunch Set บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ 11.30-14.00 น.
Address:
946 พระราม 4 แขวง สีลม เขต บางรัก กรุงเทพ 10500
Map:

No comments:

Post a Comment