พอเลิกงานก็ไปร้าน Loong Foong ที่ Swissotel Le Concorde นั่ง mrt ไปลงห้วยขวางเดิน 2 นาที ถึงเลยคะ ที่สําคัญกําลังอยากกินติมซ่ําอยู่พอดีและร้านก็เป็น private อย่างที่เราต้องการเลย แต่ในแอพก็อธิบายละเอียดอยู่แล้วคะว่าป็นอาหารประเภทไหน แล้วเราก็กดเลือกร้าน เลือกเวลาที่เราและเพื่อนนัดกัน เสร็จแล้วก็กดจองเลยค่า ไม่ถึงนาที ก็มีอีเมลล์เด้งเข้ามา confirm ว่าเราจองร้านอาหารสําเร็จแล้ว กี่ท่าน กี่โมง และแล้วก็ถึงเวลานัด
เราก็เดินทางไปที่โรงแรม ร้านอาหารอยู่ชั้น 2 (ต้องบอกก่อนว่าไม่เพิ่งเคยมากินที่นี่เป็นครั้งแรก) สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ สง่าของร้านอาหาร ดูเป็นแบบภัตตาคารจีนโอ่อ่า สิ่งที่สองคือ ความน่ารักของพนักงาน ตอนมาถึงพนักงานก็ถามว่า จองมาหรือป่าวคะ เราก็บอกว่า จองมาจาก EZTABLE พนักงานก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดีคะ เดินผ่านมาในร้านก็เห็นรางวัลมากมายที่ร้านอาหารนี้ได้รับ ก็ฟินเลยคะ รับรองว่าต้องอร่อยแน่ ที่ร้านมีให้เลือกทั้งแบบ buffet หรือ a la cart เราก็เลือกแบบ buffet เลยคะ แค่ 799++ เอง มีให้เลือกถึง 67 เมนู คืนนี้กินจนอืดก็ยอมคะ แต่ละอย่างดูน่าทานทั้งนั้น น้ําก็มีให้เลือกทั้งชาร้อน ชาเย็น เก็กฮวย เหมาะกับอาหารจีนที่สุด
เรามาเริ่มที่จานแรกกันเลยคะ แค่เห็นภาพในเมนูก็ละลายและเป็นติมซ่ําขึ้นชื่อของที่นี่ ก็คือ “ฮะเก๋ากุ้งนึ่งโรยด้วยแผ่นทองคํา” แค่ชื่อแผ่นทองคํา ดูอลังการมาก และเมื่อพนักงานยกมาเสริฟร้อนๆ เราก็รีบคีบมาทาน โอ้โห กัดไปแทบละลาย เนื้อกุ้งเน้นเน้น เนื้อนิ่มมากจนแทบไม่ต้องเคี้ยว เริ่มต้นกันที่ วันนั้นอยากหาร้านอาหารไปทานกะเพื่อนๆคะ แต่ว่าคิดไม่ออก หอมกินกุ้งโชยๆ ผสมด้วยแป้งที่ทําเป็นสีดําโรยแผ่นทองคํา มันเหมือนกรอบนอกนุ่มในอย่างไงอย่างงั้น
แต่นี่เป็นติมซ่ํา แป้งก็จะเหนียวรับความนุ่มละลายของกุ้ง จานนี่ผ่านมากคะ ผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ถึงนาที 3 เข่ง ยกนิ้วให้เลย
และเราก็มาเริ่มที่จานที่สอง คือ “หอยเชลล์นึ่งรังนก” นี่ก็อีกหนึ่งจานที่ recommend แค่หอยเชลล์นึ่งด้วยรังนกก็ละลายแล้ว ยังมีไข่ปลาแซลมอนโรยอยู่ด้านบนด้วย ก่อนทานก็ได้กลิ่นหอมของ หอยเชลล์ คําแรกที่สัมผัส เป็นความลงตัวระหว่างความหวานและความนุ่มของหอยเชลล์ที่นึ่งมาจากรังนก ตัดกับความเค็มเล็กเล็กของไข่ปลาแซลมอนที่โรยด้านบน ต้องเอ่ยคําที่ว่า รสชาติลงตัวระหว่างความหวานความเค็ม เคี้ยวไปแบบนิ่มๆ แทบไม่อยากกลืน จัดการเบิ้ลไปหลายเข่ง
ตามมาที่เข่งที่สามคะ “กรรเชียงปูม้านึ่งผงกะหรี่” ขอบอกว่าจานนี้เริ่ดมาก กรรเชียงปูม้าชิ้นใหญ่ผสมด้วยกุ้ง นึ่งเข้าด้วยกัน รสหวานละมุนมาก น้ําผงกะหรี่ที่ราดมาไม่สามารถบรรยาย มัน ข้น หวาน รวมกัน ละมุนลิ้นที่สุด บวกด้วย เนื้อปูนิ่มๆ โอ๊ย จานนี้อยากจะกรี๊ดคะ
เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาจานที่สี่คะ “ปอเปี๊ยะกุ้งมะม่วง” จานนี้กําลังคิดอยู่ว่าทําปอเปี๊ยะกุ้ง กับมะม่วงสุกมันเข้ากันเหรอ พอพนักงานมาเสริฟ เราก้แยกเปนสองส่วน เพื่อดูส่วนผสมข้างใน มันคือมะม่วงสุกชิ้นใหญ่ นึ่งไฟอ่อน พอให้สุกกับเนื้อกุ้งชิ้นโต มันเหมือนกับเนื้อมะม่วงละลายไปผสมกับเนื้อกุ้ง หอมหวานมาก เนื้อแป้งที่ห่อ มันละเอียดมาก แป้งบางกรอบ ไม่มากไม่น้อยเกินไป พอกินเข้าไปทั้งคํา แทบกรี๊ด เนื้อกุ้งนุ่ม หวานมะม่วงสุก ห่อด้วยแป้งกรอบ สนุกเลยคะ จานนี้จัดคนเดียว
มาแก้เลี่ยนกันบ้างด้วย “ซุปเกี๊ยวหล่งฟ่ง” ซุปร้อนๆควันกรุ่นๆ และปลา 1 ตัว เพราะรูปร่างของเกี๊ยวเหมือนปลานั่นเอง รสชาติของซุป กลมกล่อมมาก แก้เลี่ยนได้ดีทีเดียวหวานๆเค็มๆ ผสมกันอย่างลงตัว ลื่นคอมากทีเดียว อีกทั้งเนื้อของเกี๊ยว แน่น นุ่ม สุดสุดคะ ซุปนี้กินกันจนลิ้พองแลยทีเดียว เพราะทนรอให้เย็นไม่ไหว
จริงๆแล้วมีอาหารให้เลือกรับประทานอยู่มาก เผลอทานไปหลายเข่งจนเริ่มอิ่ม จริงๆต้องบอกว่าอิ่มมาก สุดท้ายก็ต้องตบด้วยของหวาน ที่เราเลือกก็คือ “พุดดิ้งมะม่วง” และ “เยลลี่ตะไคร้กับว่านหางจระเข้และน้ํามะนาว” ฮ่าๆ อยากกินทั้งสองอย่าง ดูน่ากินไปหมด ก็สั่งมาลองให้หมดขอบอกว่าอร่อยยมากก พุดดิ้งมะม่วงเนื้อมะม่วงนิ่มมาก หวานอมเปรี้ยว พุดดิ้งเด้งเด้ง ราดด้วยน้ํามะม่วงคั้น โรยด้วยเชอร์รี่เชื่อม ละลายในปากละค่า สุดท้ายแก้หวานด้วย เยลลี่ตะไคร้กับว่านหางจระเข้และน้ํามะนาว ชื่ออาจดูยาวแต่รสชาติเป็นแบบนั้นจริงๆ
น้ําตะไคร้ถูกทําให้เป็นเยลลี่ ผสมด้วยเยลลี่ว่านหางจระเข้ ราดด้วยน้ํามะนาวผสมน้ําตะไคร้ รสชาติ เปรี้ยวอมหวานกลิ่นตะไคร้ ชุมคอชื่นใจเป็นที่สุด คอนเฟิรม์ค่ะว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง ลองไปชิมกันได้นะคะ
เราก็เดินทางไปที่โรงแรม ร้านอาหารอยู่ชั้น 2 (ต้องบอกก่อนว่าไม่เพิ่งเคยมากินที่นี่เป็นครั้งแรก) สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ สง่าของร้านอาหาร ดูเป็นแบบภัตตาคารจีนโอ่อ่า สิ่งที่สองคือ ความน่ารักของพนักงาน ตอนมาถึงพนักงานก็ถามว่า จองมาหรือป่าวคะ เราก็บอกว่า จองมาจาก EZTABLE พนักงานก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดีคะ เดินผ่านมาในร้านก็เห็นรางวัลมากมายที่ร้านอาหารนี้ได้รับ ก็ฟินเลยคะ รับรองว่าต้องอร่อยแน่ ที่ร้านมีให้เลือกทั้งแบบ buffet หรือ a la cart เราก็เลือกแบบ buffet เลยคะ แค่ 799++ เอง มีให้เลือกถึง 67 เมนู คืนนี้กินจนอืดก็ยอมคะ แต่ละอย่างดูน่าทานทั้งนั้น น้ําก็มีให้เลือกทั้งชาร้อน ชาเย็น เก็กฮวย เหมาะกับอาหารจีนที่สุด
เรามาเริ่มที่จานแรกกันเลยคะ แค่เห็นภาพในเมนูก็ละลายและเป็นติมซ่ําขึ้นชื่อของที่นี่ ก็คือ “ฮะเก๋ากุ้งนึ่งโรยด้วยแผ่นทองคํา” แค่ชื่อแผ่นทองคํา ดูอลังการมาก และเมื่อพนักงานยกมาเสริฟร้อนๆ เราก็รีบคีบมาทาน โอ้โห กัดไปแทบละลาย เนื้อกุ้งเน้นเน้น เนื้อนิ่มมากจนแทบไม่ต้องเคี้ยว เริ่มต้นกันที่ วันนั้นอยากหาร้านอาหารไปทานกะเพื่อนๆคะ แต่ว่าคิดไม่ออก หอมกินกุ้งโชยๆ ผสมด้วยแป้งที่ทําเป็นสีดําโรยแผ่นทองคํา มันเหมือนกรอบนอกนุ่มในอย่างไงอย่างงั้น
แต่นี่เป็นติมซ่ํา แป้งก็จะเหนียวรับความนุ่มละลายของกุ้ง จานนี่ผ่านมากคะ ผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ถึงนาที 3 เข่ง ยกนิ้วให้เลย
และเราก็มาเริ่มที่จานที่สอง คือ “หอยเชลล์นึ่งรังนก” นี่ก็อีกหนึ่งจานที่ recommend แค่หอยเชลล์นึ่งด้วยรังนกก็ละลายแล้ว ยังมีไข่ปลาแซลมอนโรยอยู่ด้านบนด้วย ก่อนทานก็ได้กลิ่นหอมของ หอยเชลล์ คําแรกที่สัมผัส เป็นความลงตัวระหว่างความหวานและความนุ่มของหอยเชลล์ที่นึ่งมาจากรังนก ตัดกับความเค็มเล็กเล็กของไข่ปลาแซลมอนที่โรยด้านบน ต้องเอ่ยคําที่ว่า รสชาติลงตัวระหว่างความหวานความเค็ม เคี้ยวไปแบบนิ่มๆ แทบไม่อยากกลืน จัดการเบิ้ลไปหลายเข่ง
ตามมาที่เข่งที่สามคะ “กรรเชียงปูม้านึ่งผงกะหรี่” ขอบอกว่าจานนี้เริ่ดมาก กรรเชียงปูม้าชิ้นใหญ่ผสมด้วยกุ้ง นึ่งเข้าด้วยกัน รสหวานละมุนมาก น้ําผงกะหรี่ที่ราดมาไม่สามารถบรรยาย มัน ข้น หวาน รวมกัน ละมุนลิ้นที่สุด บวกด้วย เนื้อปูนิ่มๆ โอ๊ย จานนี้อยากจะกรี๊ดคะ
เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาจานที่สี่คะ “ปอเปี๊ยะกุ้งมะม่วง” จานนี้กําลังคิดอยู่ว่าทําปอเปี๊ยะกุ้ง กับมะม่วงสุกมันเข้ากันเหรอ พอพนักงานมาเสริฟ เราก้แยกเปนสองส่วน เพื่อดูส่วนผสมข้างใน มันคือมะม่วงสุกชิ้นใหญ่ นึ่งไฟอ่อน พอให้สุกกับเนื้อกุ้งชิ้นโต มันเหมือนกับเนื้อมะม่วงละลายไปผสมกับเนื้อกุ้ง หอมหวานมาก เนื้อแป้งที่ห่อ มันละเอียดมาก แป้งบางกรอบ ไม่มากไม่น้อยเกินไป พอกินเข้าไปทั้งคํา แทบกรี๊ด เนื้อกุ้งนุ่ม หวานมะม่วงสุก ห่อด้วยแป้งกรอบ สนุกเลยคะ จานนี้จัดคนเดียว
มาแก้เลี่ยนกันบ้างด้วย “ซุปเกี๊ยวหล่งฟ่ง” ซุปร้อนๆควันกรุ่นๆ และปลา 1 ตัว เพราะรูปร่างของเกี๊ยวเหมือนปลานั่นเอง รสชาติของซุป กลมกล่อมมาก แก้เลี่ยนได้ดีทีเดียวหวานๆเค็มๆ ผสมกันอย่างลงตัว ลื่นคอมากทีเดียว อีกทั้งเนื้อของเกี๊ยว แน่น นุ่ม สุดสุดคะ ซุปนี้กินกันจนลิ้พองแลยทีเดียว เพราะทนรอให้เย็นไม่ไหว
จริงๆแล้วมีอาหารให้เลือกรับประทานอยู่มาก เผลอทานไปหลายเข่งจนเริ่มอิ่ม จริงๆต้องบอกว่าอิ่มมาก สุดท้ายก็ต้องตบด้วยของหวาน ที่เราเลือกก็คือ “พุดดิ้งมะม่วง” และ “เยลลี่ตะไคร้กับว่านหางจระเข้และน้ํามะนาว” ฮ่าๆ อยากกินทั้งสองอย่าง ดูน่ากินไปหมด ก็สั่งมาลองให้หมดขอบอกว่าอร่อยยมากก พุดดิ้งมะม่วงเนื้อมะม่วงนิ่มมาก หวานอมเปรี้ยว พุดดิ้งเด้งเด้ง ราดด้วยน้ํามะม่วงคั้น โรยด้วยเชอร์รี่เชื่อม ละลายในปากละค่า สุดท้ายแก้หวานด้วย เยลลี่ตะไคร้กับว่านหางจระเข้และน้ํามะนาว ชื่ออาจดูยาวแต่รสชาติเป็นแบบนั้นจริงๆ
น้ําตะไคร้ถูกทําให้เป็นเยลลี่ ผสมด้วยเยลลี่ว่านหางจระเข้ ราดด้วยน้ํามะนาวผสมน้ําตะไคร้ รสชาติ เปรี้ยวอมหวานกลิ่นตะไคร้ ชุมคอชื่นใจเป็นที่สุด คอนเฟิรม์ค่ะว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง ลองไปชิมกันได้นะคะ
Loong Foong - Swissotel Le Concorde
ที่อยู่: 204 ถนนรัชดาภิเษก (Swissotel Le Concorde Level 2)
เวลาเปิดร้าน: Everyday 11:30 - 14:30, 18:00 - 22:30
No comments:
Post a Comment