[รีวิว] Whale’s Belly Restaurant and Bar

  • 0
ร้าน Whale’s Belly ขึ้นชื่อเรื่องการตกแต่งร้านอาหารที่สวยงาม เน้นคอนเซ็ปส์ร้านอาหารอยู่ในท้องปลาวาฬ นั่นเลยเป็นที่มาของชื่อร้านอาหาร โดยร้านอาหารตั้งอยู่ที่อาคาร 39 บลูเลอวาร์ด (39 Boulevard) ในซอยสุขุมวิท 39 หากขับรถมาเอง เมื่อเข้าซอยสุขุมวิท 39 มาแล้ว ขับตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านซอยพร้อมมิตร ซอยพร้อมใจ จนมาถึงซอยพร้อมจิตร เลี้ยวซ้ายเข้ามาเรื่อยๆ จะพบกับป้ายด้านหน้ามีแสดงชื่อร้านอาหารให้เห็นเด่นชัด เมื่อมาถึงแล้วด้านหน้าเป็นลานจอดรถ หันไปมองทางซ้ายบนบนอาคารชั้นสอง จะเห็นป้ายร้าน Whale’s Belly ส่องแสงชัดเจน เจ้าหน้าที่ที่ลานจอดรถจะคอยแนะนำว่าสามารถนำรถไปจอดตรงไหนได้บ้าง หากมาด้วยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงที่สถานีพร้อมพงษ์ (ซอยอยู่ตรงข้ามกับห้างเอ็มโพเรี่ยม) แล้วเข้ามาด้วยรถแท็กซี่ จะสะดวกที่สุด เพราะเข้าซอยมาค่อนข้างลึกนิดนึง


ต้องบอกว่าสมกับเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อ เพราะเมื่อเข้าไปด้านในแล้วจะพบว่ามีกรอบรูปตั้งแสดงถึงบุคคลสำคัญต่างๆ ที่มาทานกันแล้วได้ให้ฟีดแบ็คไว้ ทางร้านจัดตกแต่งให้เป็นบรรยากาศแบบอยู่ในท้องทะเลอย่างสวยงาม


พนักงานพาเราสองคนแม่ลูกไปยังโต๊ะที่ได้จองไว้ ด้านใน อยู่ติดริมหน้าต่าง มองเห็นวิวภายนอกยามค่ำคืนสวยงาม บรรยากาศในร้านไม่สว่างเกินและไม่มืดเกินไป มีเพียงหลอดไฟยื่นลงมาเป็นแสงสลัว หากมากับคู่รัก ช่างได้บรรยากาศที่โรแมนติกดีอย่างยิ่ง แต่เรามากับคุณแม่มาเพื่อเน้นทานอาหารอร่อยๆ และเปลี่ยนบรรยากาศ

พนักงานนำเมนูน้ำมาให้ดูกันก่อน ซึ่งเราเองก็ไม่ใช่คนที่นิยมชมชอบในการจิบไวน์หรือบรั่นดีใดๆ เลยขอเซย์บายด้วยการขอเครื่องดื่มที่บริกรฟังแล้วนิ่งไปพักนึง เอิ่ม โกโกร้อน... ส่วนคุณแม่ยังพอมีคลาสมานิด สั่งน้ำแครนเบอร์รี่ จากนั้นจึงได้เมนูอาหารมา เราสองแม่ลูกพิจารณาว่าแบบไหน จะเหมาะสมกับนักทาน(จุ)อย่างเราสองคน


คุณแม่เปิดด้วยการ 9 course น่าสนใจนะ ชอบมั้ย? เราก็มอง อู้วว ราคา... ราคายังไม่ใช่ประเด็นหลัก หลักที่ว่าคือมาเป็นเซ็ท จะทานหมดหรือนี่ เราเลยพากันเลือกทีละเมนูทีละสเต็ปดีกว่า พอจะสั่ง ก็สั่งกันแบบงงๆ ซุปล็อปสเตอร์ ซีฟู้ด... พนักงานน่ารักที่รู้ใจเราช่วยแนะนำให้ อย่างคุณแม่อยากทานสปาร์เก็ตตี้กับกุ้งล็อปสเตอร์ ก็เลยแนะนำเมนูพิเศษของร้านให้ ซึ่งไม่มีในเมนูนั้น เป็นเส้นสปาร์เก็ตตี้แบบเดรสแฮร์ พร้อมล็อปสเตอร์ทั้งตัว ราคาเบาะๆ แค่ 2,750 บาทเท่านั้นเอง คุณแม่ตอบตกลง เราเหงื่อตกเลยทั้งๆ ที่แอร์เย็น บรรยากาศดี แต่ได้เมนคอร์สอย่างเดียว ดูน้อยไป  เราเลยจัดเพิ่มเลย แม็คดแอน์ดชีส (490 บาท) ที่ทางพนักงานแนะนำว่าเป็นเมนูพิเศษมากๆ จัดมา และอีกอย่างคือ แซลมอนกับเนื้อปูมาพร้อมซอส(ชีส) ขออภัย เรียกไม่ถูกค่ะ เมนูนี้ 690 บาท


ในขณะที่เรานั่งชื่นชมกับบรรยากาศรอบๆ และเพดานที่เป็นซี่โครงปลาวาฬอย่างน่ารัก พนักงานก็นำขนมปังกับน้ำมาเสิร์ฟให้ก่อน คุณแม่งงว่าน้ำอะไร เธอสั่งโกโกร้อนไม่ใช่หรอ ทำไมมาเหมือนกัน พนักงานยิ้มแล้วแนะนำว่า นี่เป็น Welcome bread & Welcome drink จากทางร้าน เป็นขนมปังชาร์โคลล์ มาพร้อมข้างเคียงเนยและ chicken liver ส่วนน้ำเป็นฟรุตพันซ์


ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ป้ายด้วยเนยหอมๆ อร่อยดี แต่พอเอา chicken liver มาป้าย เอิ่มม... พอหอมปากหอมคอแล้วดื่มฟรุตพันซ์ตามอย่างรวดเร็ว แล้วน้ำที่เราสั่งก็พากันมาเสิร์ฟ.. โกโก้ร้อน แก้วเรียวน่ารัก
ไม่นานซุปล็อปสเตอร์ก็มาเสิร์ฟ พร้อมด้วยการแบ่งออกมาเป็นสองชาม เราพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้รับการบริการดีไม่ต้องมาตักแบ่งกันเอง รสชาติซุปเข้มข้นหอมกลิ่นล็อปสเตอร์มากๆ ในซุปมีชิ้นเนื้อล็อปสเตอร์ด้วย


เราสนทนากันไปพลาง รออาหารเมนคอร์สอย่างใจจดใจจ่อ ชุดแม็คแอนด์ฟิชก็มาเสิร์ฟ โดยพนักงานแนะนำว่า เป็นเมนูเดียวในโลกด้วย ที่ร้านนี้เท่านั้น โดยต้องทานคู่กันสองชิ้นที่เป็นไก่กับปลา รวมมี 4 คู่ น่ารักมาก ถ้าอธิบายแบบง่ายๆ ด้วยภาษาของเราเอง เหมือนการเอาแป้งเดียวกับแป้งพาสต้ามาห่อหุ้มเนื้อไก่และเนื้อปลาคลุกเคล้ากับเนยและชีส หอมอร่อยมากๆ ชิ้นที่เป็นเนื้อไก่ก็นุ่มนิ่ม ส่วนชิ้นที่เป็นเนื้อปลาก็หอมจนละลายในปาก ทานกันพอหอมปากหอมคอ รอชุดใหญ่ของคุณแม่ ก่อนที่จะมาเสิร์ฟ เพื่อกันพวกเราเลี่ยน เลยมีการเสิร์ฟของหวานให้ก่อน คล้ายๆ พุดดิ้ง มีรสเปรี้ยวๆ นิดนึง ดูดีจนไม่อยากทานเลย


แล้วชุดใหญ่ก็ตามมา สมใจอยากมาก เพราะคุณแม่ได้ล็อปสเตอร์มาทั้งตัวและหัวใหญ่ๆ ด้วย อลังการน่าทานมากๆ ส่วนเราก็ชิ้นปลาแซลมอน แต่ที่อยากลิ้มลองมากๆ คือซอสที่ราดมาข้างล่าง นี่คือของเด็ด ถ้าไม่มีซอสนี้ แซลมอนคงขาดสีสัน เราลองตักเส้นและเนื้อล็อปสเตอร์มาลิ้มลอง เนื้อนุ่มนิ่ม พร้อมเส้นหอมอร่อย เหมือนกับเป็นกรรมการในรายการเชฟกระทะเหล็กเลยแฮะ ได้ชิมแล้วมองจานของตนเองตรงหน้า เลยบอกให้คุณแม่จัดการล็อปสเตอร์ไปคนเดียว เราต้องจัดการชิ้นปลาแสนอร่อย พอได้ลิ้มลองก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะแซลมอนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม หอมมาก แบบที่เราชอบเลยหนังต้องกรอบ เนื้อต้องนุ่ม ไม่แข็ง และหอม ถึงจะอร่อย


กว่าเราจะจัดการสองจานเสร็จ ด้วยความอิ่มเอมเปรมปรีย์ ท้องก็ไม่พอที่จะรับของหวานใดๆ ต่อได้อีก บวกกับเวลาที่ล่วงเลยมาจนสี่ทุ่มแล้ว เราพักกันแปปนึง แล้วจึงเรียกเช็คบิล
ในแอปพลิเคชั่น EZTABLE สามารถช่วยให้เราชำระเงินได้ด้วยการไม่ต้องหยิบบัตรเครดิตหรือควักเงินออกมาจ่าย เพียงแค่กรอกบัตรเครดิตลงในแอป ที่ทางเค้ายืนยันว่าชำระเงินได้อย่างปลอดภัย พอพนักงานนำบิลมาให้และเห็นว่าเราหยิบมือถือขึ้นมา ทันใดนั้น เค้าก็รีบเดินไปทันที และกลับมาด้วย Ipad เราเข้าเมนู checkout ในแอป แล้วก็มีรายการที่ต้องชำระเงินเด้งขึ้นมา ตรวจสอบว่าเป็นยอดเดียวกันกับในบิล แล้วก็กดชำระเงินได้เลย แล้วหน้าจอก็จะแจ้งว่าชำระเงินเรียบร้อย แต่เราสงสัยว่าอย่างไหนจึงจะเป็นการยืนยันได้ว่าชำระเงินตามยอดนี้และถูกต้องจริง พอเปิดอีเมล์ที่ใช้บันทึกข้อมูลลงในแอป ก็พบว่ามีอีเมล์ส่งมาให้เป็นใบเสร็จยืนยันว่าชำระเงินที่ร้านอาหารนี้ ยอดนี้จริง


ก็นับว่าเป็นอะไรที่ทำให้เราสะดวกสบายมาก และได้เปลี่ยนบรรยากาศ มาลิ้มลองอาหารรสชาดใหม่ๆ กับบรรยากาศใหม่ๆ หากใครที่สนใจอยากลองมาทานที่ร้านอาหาร Whale’s Belly Bar and Restaurant นี้ก็สามารถใช้ แอปพลิเคชั่น EZTABLE จองมาได้เลย ทางพนักงานแอบมากระซิบด้วยว่า ถ้าอยากมาอีกคราวหน้า ต้องสำรองที่ล่วงหน้าก่อนนะ (เวลาทำการในช่วงมื้อเย็น ตั้งแต่ 17.30 นาฬิกา จนถึง 23.00 นาฬิกา เปิดให้บริการทุกวัน) ก็น่าจะจริงนะ ร้านสวย อาหารอร่อยแบบนี้ บรรยากาศก็เหมาะที่จะถ่ายรูปลงอินสตาแกรมหรือเฟสบุคด้วย เดี๋ยวจะนำแต้มที่ได้จากการทานครั้งนี้มาใช้เป็นส่วนลดมากับครั้งหน้าอีก  ติดต่อร้าน 

Whale’s Belly Restaurant and Bar
ที่อยู่: บูเลอวาร์ทาวเวอร์ (Boulevard Tower) ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท
เวลาเปิดร้าน: Everyday 17:30 - 23:00



No comments:

Post a Comment