[รีวิว] diVino food and wine สัมผัสกลิ่นอายไวน์และรสชาติอาหารดั่งเดิมจากอิตาลี

เมื่อกล่าวถึงอาหารอิตาเลี่ยนแล้ว ภาพที่ใครหลายคนนึกก็คงจะหนีไม่พ้นพิซซ่าหรือ สปาเก็ตตี้ ที่สามารถหาได้ทั่วไปในกรุงเทพ แต่คงมีไม่กี่ร้านที่สามารถถ่ายทอดกลิ่นอายดั่งเดิมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่าง ร้าน diVino food and wine ร้านอาหารอิตาเลี่ยน คลาสิกใจกลางกรุงเทพ

การเดินทางมายังร้าน สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือโดยสารรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อ จากนั้นต่อแท็กซี่มายังร้าน

      

สิ่งแรกที่สะดุดตาเมื่อมาถึงร้านก็คือ การตกแต่งสไตล์โรงไวน์อิตาลี  ที่เน้นบรรยากาศสบายๆ แต่มีระดับ ร้านใช้โทนสีเดียว แบ่งสัดส่วนที่นั่งอย่างพอดี เพิ่มความรู้สึกพิเศษและเป็นส่วนตัว เหมาะทั้งการมาพูดคุยธุรกิจ การผ่อนคลายสังสรรค์หลังเลิกงาน หรือการพาคนรู้ใจมานั่งดินเนอร์แบบโรแมนติก

อาจเรียกได้ว่านี่เป็นสวรรค์ของคนที่ชื่นชอบดื่มไวน์  จากการตกแต่งที่นำไวน์หลากหลายยี่ห้อจากทั่วโลกมาจัดวางอยู่ภายในรอบๆห้องอาหารอย่างลงตัว จนกลืนไปกลับบรรยากาศร้าน ซึ่งทำให้เราสามารถเลือกไวน์ได้อย่างอิสระตามความต้องการ

ทางร้านมีบริการอาหารห้องส่วนตัวโดยเฉพาะ เพื่อการสังสรรค์ พูดคุยธุรกิจ หรือการกินเลี้ยงในช่วงเวลาพิเศษของครอบครัว

รายการอาหารได้รับการแบ่งไว้ 3 ประเภท ได้แก่ เมนูอาหาร เมนูพิซซ่า เมนูไวน์ ให้เราได้เลือกอย่างอิสระ หรือถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี ก็สามารถพูดคุยขอคำแนะนำ รวมทั้งติชมอาหารกับเชฟได้ จึงทำให้บรรยากาศร้านดูอบอุ่นและเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น  

     เมนูเรียกน้ำย่อยจานแรกคือ Rocket salad with grilled sausage and cherry tomatoes in balsamic dressing แม้หน้าตาจะดูเรียบง่าย แต่ด้วยน้ำสลัด ไส้กรอกพิเศษที่นำเข้าโดยเฉพาะจากทางเหนือของอิตาลี และชีสParmesanหั่นบางๆพอดีคำ จึงทำให้รสชาติออกมาลงตัวเหมาะแก่คนรักสุขภาพ (330 บาท)

ตามด้วยเมนูอาหารอิตาเลี่ยนยอดฮิตที่จะพลาดไม่ได้ นั้นคือ Penne with Italian sausage, spicy tomatoes and smoked cheese ความอร่อยจากเส้นเพนเน่นุ่มๆ พร้อมด้วยไส้กรอกอิตาเลี่ยน และกลิ่มหอมจากชีส (450 บาท)

อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้ ที่ไม่ควรพลาดคือ Grilled di Vino’s beef sirloin เนื้อย่างรสชาติที่มีเอกลักษณ์ สามารถเลือกระดับความสุกได้เองตามความต้องการ เสริฟพร้อมผักโขม สลัดผัก และมันฝรั่งที่ปรุงจนนุ่มได้ที่ รวมกันแล้วจึงเป็นจานที่มีความ  บาลานซ์ของรสชาติกลมกล่อม  (690 บาท)

เมื่ออิ่มอร่อยกับจานหลักแล้ว ก็ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Panna Cotta ด้วยเนื้อที่แน่นและเข้มข้นเป็นพิเศษ ให้รสชาติที่หวานนุ่มลึก และซอสเปรี้ยวที่ช่วยตัดรสชาติจนพอดี จึงไม่รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด

  

 

      ร้านนี้ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่รักความสะดวกสบาย นั้นเพราะทางร้านได้เปิดบริการ EZTABLE checkout

เพียงจองผ่านแอพลิเคชั่นนี้ และเมื่อต้องการเช็คบิล แค่แจ้งพนักงานว่าจะขอชำระกับทาง EZTABLE รอไม่นานก็จะมียอดค่าอาหารแจ้งเตือนเข้ามาในแอพลิเคชั่น จากนั้นก็แค่กดปุ่มชำระเงินก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

นับว่าเป็นอีกประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจ ทั้งรสชาติที่เป็นสไตล์อิตาลีแท้ การตกแต่งร้านที่เรียบหรูมีระดับ รวมไปถึงการบริการที่เป็นกันเอง  ส่วนใครต้องมาเยือนร้านแห่งนี้ ก็แนะนำให้สำรองที่นั่งผ่านแอพลิเคชั่น EZTABLE ที่สะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการชำระเงินที่ง่ายอย่างที่ไม่ต้องหยิบกระเป๋าสตางค์กันเลยทีเดียว

สำหรับรายละเอียดของร้าน diVino food and wine

ตั้งอยู่บริเวณ Penny’s Balcony ปากซอยทองหล่อ 16

สามารถจองและดูส่วนลดพิเศษได้ผ่านแอพลิเคชั่น EZTABLE

เปิดให้บริการสองช่วงเวลาคือ 11.00-14.00 และ 17.30-00.00

Article by ThePing