[รีวิว] Takumi – Swissôtel Le Concorde

หากจะพูดถึงบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นในโรงแรมที่ราคาไม่แพงมากและมีคุณภาพดี เชื่อว่าหลายคนคงต้องนึกถึงห้องอาหาร Takumi โรงแรม Swissôtel Le Concorde วันนี้เราจะพาท่านไปทานอาหารญี่ปุ่นแบบไม่อั้นในราคาย่อมเยาว์กัน




ห้องอาหารทาคูมิตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม Swiss Hotel Le Concorde เมื่อก้าวเข้ามาถึงร้านอาหาร จะเห็นการตกแต่งแบบญี่ปุ่นร่วมสมัย ที่ตกแต่งด้วยไม้โทรสีน้ำตาลอ่อนทั้งร้าน

ที่นี่มีโต๊ะหลากหลายแบบให้เลือกนั่ง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้สูงแบบบาร์ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าร้าน

หรือจะเป็นโต๊ะกลมที่เหมาะไว้สำหรับมาทานเป็นกลุ่มจำนวนคนไม่มาก ก็สามารถนั่งพูดคุยขณะรับประทานอาหารได้อย่างเพลิดเพลิน

ส่วนคนที่ชอบสไตล์ซูชิบาร์แบบญี่ปุ่น ที่นี่ก็มีบาร์เล็กๆ ให้นั่งมองเชฟปั้นซูชิไปทานไปได้เช่นเดียวกัน

สำหรับโต๊ะของเราในวันนี้ถัดออกมาจากบริเวณด้านในล้านเล็กน้อย เป็นโต๊ะใหญ่ซึ่งเหมาะสำหรับการวางอาหารหลายๆจานแบบบุฟเฟ่ต์มากๆ

บนโต๊ะตกแต่งอย่างเรียบร้อย มีจาน,ตะเกียบ, และถ้วยใส่น้ำจิ้มให้สำหรับแต่ละคนด้วย

สำหรับบุฟเฟ่ต์ที่นี่เป็นแบบสั่งพนักงาน แล้วพนักงานก็จะจดใส่ iPod ก่อนส่งออร์เดอร์ไปที่ครัว แล้วนำมาเสิร์ฟให้เราถึงโต๊ะ โดยเราไม่จำเป็นต้องลุกออกจากโต๊ะเลย ส่วนเมนูอาหารก็ถูกจัดเป็นหมวดหมู่ เริ่มจาก Appitizer, Sashimi, Sushi, Soup, Yajimono grilled dish, Nabe mono, Imono, Agemono, Udon, Tempura, และข้าว จะให้ทานหมดนี่คงไม่ไหว เราเลือกรีวิวเฉพาะบางอย่างเท่านั้น  เริ่มจาก Appitizer กันก่อนเลย

จานแรกเป็นเมนูใหม่ของร้าน  เป็น Contemporary มาให้ลองทานดู นั่นคือ ยำแซลมอน เป็นปลาแซลมอนดิบ พร้อมกับหนังปลากรอบๆ นำมายำแบบไทยๆ เสิร์ฟคู่กับมะนาวผ่าซีก ราชาติเผ็ด กลิ่นพริกมะนาวค่อนค่างแรง แต่ก็ได้ความแปลกใหม่ไปอีกแบบ

จานต่อมาเป็น Hiyashi Wakame หรือยำสาหร่าย เป็นสาหร่ายทะเลแบบญี่ปุ่น หลื่นๆ เย็นๆ หนึบๆ และ Tako Jone เป็นปลาหมึกหนึบๆ นำไปหมักกับซอสและงาน รสชาติดี ไม่จัดจ้านมาก

อีกหนึ่ง หารญี่ปุ่นที่หลายคนชอบทานๆเล่น นั่นก็คือ ทาโกะยากิ แป้งทาโกะนั้นกรอบนอกนุ่มใน ด้านในเป็นไส้ปลาหมึก แป้งไม่หนามากส่วนเนื้อปลาหมึกก็ขนาดกำลังดี

เกี๊ยวซ่าสามชิ้นถูกเสิร์ฟมาในจานเล็กๆ พร้อมด้วยน้ำจิ้ม แป้งเกี๊ยวซ่ากรอบๆ ค่อนข้างกรอบและไม่เหนียว ส่วนไส้ในรสไม่จัดมาก ทานกับน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่ารสชาติกำลังดี

เมนูต่อมาเป็นซุป ซึ่งมีซุปทั้งหมด 3 อย่าง คือ Miso soup, Osui mono, และ Kimchi soup เราเลือก Ousi และ Kimchi Soup มาในวันนี้ Osui mono เป็นสุปใส ที่มีส่วนผสมของเต้าหู้, เห็ดเข็มทอง, และกุ้ง มีมะนาวมาให้บีบเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวให้กับซุปได้

กินจิซุปเสิร์ฟในถ้วยสีแดง ซุปค่อนข้างข้น รสจัดกำลังดี ไม่รสกิมจิเต็มๆ แต่ไม่เปรี้ยวจนเกินไป

มาถึง Sashimi เราสั่งปลาดิบจานรวมมา เพื่อะได้เห็นว่ามีอะไรบ้าง ในจานรวมนี้ประกอบไปด้วยแซลมอน, ทูน่า, กะพง, ปลาหมึก, และปูอัด วางเรียงมาในจานพร้อมวาซาบิ ซึ่งความสดของปลาดิบจัดว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ต่อมาเป็นซูชิบ้าง เริ่มจาก Roll ก่อน จานแรกที่เราได้คือ California Roll เป็นโรลซูชิเคลือบด้วยไข่กุ้ง จะเห็นได้ว่าค่อนข้างไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ ไข่กุ้งไม่คลุมรอบข้าวทั้งหมด และชิ้นค่อนข้างเล็กและเบี้ยวอีกต่างหาก

อีกฝั่งหนึ่งเป็น Salmon California Maki ซึ่งคล้ายกับ California Roll แต่ห่อด้วยแซลมอนแทนที่จะเป็นไข่กุ้ง รสชาติก็เยี่ยมไม่แพ้กัน

มาถึงทีเด็ด นั่นก็คือ Nigiri sushi 3 อย่าง ประกอบไปด้วย Seared Maguro, Seared Shake, และ Seared Saba สำหรับ Seared Shake เนื้อปลาแซลมอนมีวาซาบิป้ายอยู่ข้างใต้ด้วย เนื้อค่อนข้างนุ่มและมัน ส่วนมากูโร่ ใส่วาซาบิเยอะมาก ทำให้รสเผ็ดกลบรสของปลา แต่ทว่าปลาซาบะ หวานมันและไม่มีวาซาบิ

อาหารหมวดต่อไปคือของทอด เริ่มต้นจากเทมปูระเป็นเทมปูระกุ้งกับผักทอด ทอดค่อนข้างกรอบ ทานกับน้ำจิ้มรสชาติดี

ทงคัตซึเป็นอีกของทอดที่พลาดไม่ได้ หมูทอดชิ้นไม่ใหญ่มาก วางในจาน ทานกับน้ำจิ้มหวาน

อีกของทอดที่หลายคนชอบคือไก่คาราเกะ เป็นไก่ทอดชิ้นใหญ่ หนงไก่ไม่กรอบมากและเนื้อไก่ก็ไม่เค็มเกินไป บีบมะนาวเพิ่มเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวได้

ถัดจากของทอด ก็คือของย่าง เริ่มจากปลาซาบะย่างกันก่อน ปลาซาบะครึ่งตัวตัดส่วนหัวออก ย่างจนสุก ราดด้วยน้ำจิ้มหวานและโรยหน้าด้วยสาหร่ายซอย รสชาติดี น้ำจิ้มเข้าซึมถึงเนื้อปลา

ถัดจากปลา ก็เป็น Seafood Teppanyaki คือการนำเอาซีฟู้ดหลากหลายมาผัดรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลาหมึก หอยเขลล์ และปลา รสของซอสที่นำไปผัดซึมเคลือบผิวของอาหารทะเล ทำให้ได้รสชาติเค็มหวานเข้ากับเนื้อได้ดี

อีกหนึ่งเนื้อเด็ด นั่นก็คือ ยากินิคุ เป็นเนื้อแร่เป็นเส้นบางๆ ติดมันเล็กน้อย ก่อนนำไปหมักและผัดกับซอสเทริยากิ รสของซอสซึมเข้าเนื้อ

มาถึงจานสุดท้าย นั่นก็คือ ไก่เทปันยากิ เป็นไก่ทอด หนังกรอบ เนื้อชุ่มฉ่ำ แต่เสียดายที่นำไปผัดแล้วซอสไม่ค่อยเข้าเนื้อเท่าไหร่

สำหรับของหวานปิดท้าย แน่นอนต้องเป็นของหวานแบบญี่ปุ่น นั่นก็คือ Zenzai เป็นไอศกรีมขาเขียว ใส่ถั่วแดงและโมจิ ตามสูตรต้นตำหรับจะต้องมี น้ำเต้าหู้ด้วย แต่พนักงานแจ้งเราว่าน้ำเต้าหู้หมด ก็ไม่เป็นไร แบบนี้ก็อร่อยดี
สำหรับค่าบุฟเฟ่ต์ในวันนี้ ตกหัวละ 790 บาท net เท่านั้น ซึ่งถูกมากสำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นในโรงแรม ซึ่งเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เราแนะนำสำหรับคนที่ต้องการทานอาหารญี่ปุ่นแบบไม่อั้นและคำนึงถึงราคาเป็นหลักด้วย

การเดินทางมาโรงแรม Swiss Hotel สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถใต้ดิน โดยลงที่สถานีห้วยขวางแล้วออกที่ทางออกที่ 2 ก็สามารถเดินมาถึงโรงแรมได้ แต่ถ้าหากใครขับรถมา ให้ขับมาบนถนนรัชดา โรงแรมตั้งอยู่ทางฝั่งขาเข้าเมือง ช่วงบริเวณสถานีรถใต้ดินห้วยขวาง
ข้อมูลทั่วไป Takumi - Swissôtel Le Concorde
Opening Hour:
Lunch:  11.30 - 14.30
Dinner: 18.00 - 22.30
Address:
204 ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10230
Map: